โรคสุดฮิตที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ กับวิธีดูแลสุขภาพอย่างง่ายๆ

โรคผู้สูงอายุ

นับวันที่จำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น จำนวนของ ผู้สูงอายุ ก็มีเพิ่มสูงตามต่อเนื่องเช่นกัน เพราะทุกคนล้วนเข้าสู่ช่วงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงด้วยกันทั้งนั้น

โดยเฉพาะทางด้านร่างกาย และจิตใจที่มักเกิดการเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้น โรคในวัยผู้สูงอายุ ก็ยิ่งพบได้มากขึ้น

ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่ควรมองข้ามหรือละเลย โรคที่มักเกิดขึ้นบ่อยในผู้สูงอายุ

โรคที่มักพบบ่อยในผู้สูงอายุ มีโรคใดบ้าง? 

เพราะโดยปกติแล้ว เมื่อคนเราอายุ 30 ปีขึ้นไป ร่างกายก็มักมีการเสื่อมสภาพของอวัยวะต่างๆ ซึ่งการเสื่อมสภาพของระบบภายในร่างกายนี้

ก็นำมาซึ่งสาเหตุของการเกิดโรคได้อย่างหลากหลายชนิดทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน

โรคมะเร็ง โรคทางสมอง และโรคกระดูกพรุน เป็นต้น นอกจากการเสื่อมสภาพทางร่างกายแล้ว ทางด้านจิตใจก็มีผลกระทบด้วย

โดยจะส่งผลต่อการดำรงชีวิต สังเกตได้จากผู้สูงอายุที่มักมีภาวะซึมเศร้า อาการดังกล่าวมักเกิดขึ้นในผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรังทางกาย

จนทำให้ไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ หรือเกิดขึ้นจากการถูกปล่อยทิ้งขว้างให้ต้องใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง

ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณมาดูกันค่ะว่า โรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุมีโรคใดบ้าง? จะได้เตรียมตัวรับมือให้เท่ากันกันต่อไป

1.โรคทางสมอง

โรคที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับทางสมอง มักพบได้มากในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง

เครียด ไม่ค่อยออกกำลังกาย มีพฤติกรรมการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ และสมาชิกในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคทางสมอง

ซึ่งการเสื่อมสภาพของเซลล์ในสมองส่วนใหญ่มักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป

สำหรับโรคทางสมองที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ได้แก่ โรคสมองเสื่อม โรคอัลไซเมอร์ โรคอัมพฤกษ์อัมพาต หรือโรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น

2.โรคเกาต์

โรคเกาต์ เป็นโรคที่มักพบได้บ่อยในผู้ชายวัยสูงอายุมากกว่าผู้หญิง อาการของโรคนี้ผู้ป่วยจะมีอาการปวดตามข้อ

โดยเกิดจากร่างกายมีการสะสมของกรดยูริกตามข้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งคนเราในแต่ละวัยก็มีระดับของกรดยูริกในเลือดอย่างแตกต่างกัน

เช่น หญิงที่อยู่ในวัยก่อนหมดประจำเดือนร่างกายจะมีระดับกรดยูริกในเลือดสูงมากกว่าคนในวัยอื่นๆ อีกทั้งการรับประทานอาหารที่มีสารฟิวรีนปริมาณสูง

อย่างเนื้อไก่ เนื้อเป็ด เครื่องในสัตว์ ยอดผักและถั่วต่างๆ ก็นับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดกรดยูริกขึ้นในร่างกายมากไปได้เช่นเดียวกัน

3.โรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่เกี่ยวกับกระบวนการผลิตฮอร์โมนอินซูลินซึ่งเป็นไปอย่างไม่เพียงพอ

จนส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นสูง และก่อให้มีอาการต่างๆ ตามมา เช่น กระหายน้ำและปัสสาวะบ่อย จนต้องดื่มน้ำปริมาณมากๆ ในแต่ละครั้ง

ผู้ป่วยยังมีอาการอ่อนเพลีย และน้ำหนักตัวลดลงโดยไม่มีสาเหตุ นอกจากนี้ ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากภาวะแทรกซ้อนร่วมด้วย

เช่น อาการตาพร่ามัวหรือตาบอด ไตเสื่อม มีอาการชาตามปลายมือปลายเท้า และยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายอีกด้วย

4.โรคความดันโลหิตสูง

โดยปกติแล้ว ระดับความดันโลหิตของคนทั่วไปมักอยู่ที่ 120/80-139/89 มิลลิเมตรปรอท แต่หากตรวจวัดความดันแล้วพบว่า

มีค่าความดันโลหิตสูงมากกว่านี้ ก็อาจถือเป็นผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ส่วนใหญ่ มักป่วยด้วยโรคนี้กันเป็นอย่างมาก

ยิ่งไม่ควรละเลยการหมั่นตรวจวัดความดันโลหิตอยู่เสมอ สำหรับโรคนี้ผู้ป่วยเป็นแล้วมักจะไม่แสดงอาการออกมาชัดเจน

หากแต่บางครั้งอาจจะมีอาการปวดศีรษะ หน้ามืด ใจสั่น และตาพร่ามัว หากไม่ทำการรักษาตั้งแต่เบื้องต้น

ปล่อยปละละเลยจนเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นมาได้ อย่างเช่น อัมพฤกษ์ ตาบอด ไตวายและหัวใจวาย เป็นต้น

5.โรคระบบทางเดินปัสสาวะ

โรคระบบทางเดินปัสสาวะที่เกิดขึ้นในผู้ชายและผู้หญิงมักมีสาเหตุการเกิดที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่แล้ว ในผู้ชายวัยสูงอายุที่มีอาการต่อมลูกหมากโต

จนเข้าไปกดท่อปัสสาวะทำให้ผู้ป่วยปัสสาวะออกมาได้ลำบาก และยังมีอาการปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน อีกทั้งยังปัสสาวะออกไม่หมด

จนทำให้เหลือปัสสาวะบางส่วนค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งนี่ก็คือ สาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้

ในขณะที่ผู้หญิงสูงอายุนั้น มักเกิดโรคระบบทางเดินปัสสาวะขึ้นจากการกลั้นปัสสาวะเอาไว้ไม่อยู่ โดยอาจเกิดจากระบบประสาทเสื่อมสภาพ

สุขภาพจิต กระเพาะหรือระบบทางเดินปัสสาวะมีการทำงานผิดปกติ เช่น เกิดการอุดตัน ติดเชื้อ หรือเกิดจากหูรูดไม่ดี เป็นต้น

6.โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก

โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นโรคที่เกิดขึ้นกับผู้ชายโดยเฉพาะ มักพบในชายวัยสูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป

โดยมีสาเหตุการเกิดมาจากระบบฮอร์โมนเพศชายมีภาวะที่ไม่เป็นไปอย่างสมดุล จนทำให้เซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากเจริญเติบโตยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังเกิดขึ้นได้จากการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันสูง และการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เป็นต้น

ซึ่งอาการของมะเร็งต่อมลูกหมากในระยะแรกเริ่ม ผู้ป่วยมักไม่พบอาการแสดงใดๆ ออกมา จนต่อเมื่อมะเร็งมีการลุกลามหนักมากขึ้น

ก็อาจทำให้มีอาการปัสสาวะแบบผิดปกติ ผู้ป่วยจะรู้สึกเบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลง ปวดเมื่อยตามตัวและปวดกระดูก

7.โรคตา

สำหรับโรคตาที่มักพบได้บ่อยในผู้สูงอายุก็คือ โรคต้อหิน โรคต้อกระจก โรคจอประสาทตาเสื่อม และน้ำวุ้นในตาเสื่อมสภาพ

ซึ่งสาเหตุก็มีด้วยกันหลากหลายสาเหตุ และยังมีอาการที่แตกต่างกันออกไป แต่สาเหตุส่วนใหญ่ในการเกิดโรคตานั้น

มักเกิดขึ้นจากความเสื่อม ด้วยเพราะอายุที่มากขึ้นจึงส่งผลทำให้การมองเห็นลดลง เพราะฉะนั้น หากพบว่าดวงตาเกิดความผิดปกติ

ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ รีบพบจักษุแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียดและรักษาอย่างถูกต้องต่อไปจะดีที่สุด

8.โรคหัวใจขาดเลือด

โรคหัวใจขาดเลือด เกิดขึ้นจากภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ อาการดังกล่าวถือว่าอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลยทีเดียว

โดยพบมากในผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง อ้วนลงพุง ไม่ค่อยออกกำลังกาย สูบบุหรี่ และผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัว

มีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ ก็จะยิ่งทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นได้ด้วย

สำหรับอาการสำคัญของโรคหัวใจขาดเลือดคือ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกในระหว่างช่วงราวนม ลิ้นปี่

โดยรู้สึกเหมือนมีอะไรมากดทับไว้ จนหายใจไม่สะดวกและอาจร้าวไปยังคอ กราม แขนข้างซ้ายด้านใน

อีกทั้งยังมีอาการอื่นๆ เกิดขึ้นร่วมด้วยได้ เช่น เหนื่อยหอบ มีเหงื่อออก ตัวเย็น ศีรษะเย็น หน้ามืด ใจสั่น และนอนราบไม่ได้

ผู้สูงอายุหรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดจึงควรหมั่นเฝ้าสังเกตอาการเหล่านี้ให้ดี หากพบว่ามีอาการเจ็บแน่นหน้าอก ควรรีบพาผู้ป่วยพบแพทย์โดยเร็ว

9.โรคไต

ผู้สูงอายุที่เป็นโรคไต ในเริ่มแรกนั้นมักจะไม่มีอาการของโรคแสดงออกมา จนกระทั่งไตเริ่มเสื่อมสภาพมากขึ้น

การทำงานของไตก็จะเสื่อมประสิทธิภาพลง ทำให้เกิดการคั่งค้างของของเสียมากขึ้น ซึ่งอาการผิดปกติหรืออาการของโรคที่จะแสดงออกมามากขึ้น

ก็คือ ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่อง่าย บวม มีระดับความดันโลหิตสูง หากเป็นมากใกล้จะเป็นไตวายเรื้อรังก็จะยิ่งมีอาการซีด

คันตามเนื้อตัว เบื่ออาหาร อาการดังกล่าวนี้ทางการแพทย์จะรักษาผู้ป่วยด้วยการล้างไต ฟอกเลือดใหม่ และทำการเปลี่ยนไตให้ใหม่ในเวลาต่อมา

วิธีดูแลสุขภาพในแบบเบื้องต้น เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ 

1.ใส่ใจควบคุมโภชนาการให้เป็นไปอย่างเหมาะสมดีพอกับร่างกาย โดยควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เลี่ยงการทานรสเค็มจัด และรสหวาน

2.ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ โดยดื่มให้ได้ปริมาณเพียงพอต่อความต้องการร่างกาย

3.ออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสภาพของร่างกาย เช่น การเดิน วิ่งจ้อกกิ้ง ว่ายน้ำ โยคะ และปั่นจักรยาน เป็นต้น โดยควรออกอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน ครั้งละ 30 นาที

4.ควรควบคุมน้ำหนักให้คงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่ควรปล่อยตัวให้อ้วนเกินไป

5.หลีกเลี่ยงพฤติกรรมการสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

6.ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ไม่เครียด และควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ

7.หมั่นเฝ้าสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ ในร่างกาย หากพบความผิดปกติขึ้น ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อจะได้รับมือความผิดปกติอย่างเท่าทัน

8.หลีกเลี่ยงพฤติกรรมการใช้ยารักษาอาการเจ็บป่วยด้วยตัวเองอย่างไม่เหมาะสม

เช่น ซื้อยารับประทานเอง และการใช้ยาตัวเก่าเพื่อรักษาอาการใหม่ หรืออาจจะนำยาจากผู้อื่นมาใช้ก็ไม่ควรอย่างยิ่ง

9.ควรหมั่นพบแพทย์อยู่เสมอ เพื่อจะได้รับคำปรึกษาต่างๆ ทั้งวิธีการปฏิบัติตัว และการใช้ยารักษาโรคได้อย่างถูกต้อง

10.ควรตรวจสุขภาพประจำปี โดยควรตรวจสม่ำเสมอทุก 6-12 เดือนจะดีที่สุด โดยเฉพาะวัยสูงอายุแบบนี้ด้วยแล้ว โอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ หลายโรคย่อมมีสูง

แต่การตรวจสุขภาพอยู่เสมอย่อมทำให้ค้นพบโรคในระยะแรกได้เร็ว และสามารถทำการรักษาได้หายขาดค่อนข้างสูงนั่นเอง

โรคในผู้สูงอายุ

Credit : dreduardorosa.com.br

และนี่ก็คือ โรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ สำหรับ ผู้สูงอายุ คนไหนที่มีโรคเหล่านี้ ควรหมั่นพบแพทย์อยู่เสมอ และควรตรวจสุขภาพประจำปี

นอกจากนี้ ควรดูแลสุขภาพในแบบเบื้องต้นตามที่เราแนะนำ รวมถึงผู้ที่อยู่ในวัยใกล้เข้าสู่วัยสูงอายุก็ด้วยเช่นเดียวกัน

เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง มีอายุยืนยาวโดยห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บมากขึ้นนั่นเอง