โรคลิ้นหัวใจ เป็นโรคมีความเกี่ยวข้องกับหัวใจ ซึ่งเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกาย และหากหัวใจเกิดความผิดปกติ
ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่พอสมควรที่จะต้องรีบใส่ใจและดูแล โดยเฉพาะการเป็นโรคบางชนิดขึ้นที่หัวใจ อย่าง “โรคลิ้นหัวใจ”
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโรคที่สามารถสร้างความอันตรายให้กับคนเราได้อย่างที่คาดไม่ถึง โดยโรคนี้สามารถที่จะเป็นได้ตั้งแต่วัยแรกเกิด
จนถึงวัยสูงอายุ และยังเป็นได้ทั้งในเพศชายและหญิงอีกด้วย วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกันว่า
โรคลิ้นหัวใจคืออะไร สาเหตุ อาการและวิธีรักษาป้องกันมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
โรคลิ้นหัวใจ คืออะไร?
โรคลิ้นหัวใจ (Valvular heart disease) หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า โรคลิ้นหัวใจพิการ คือ โรคที่หัวใจมีการทำงานผิดปกติ จึงส่งผลทำให้การไหลเวียนโลหิตมีความผิดปกติตามไปด้วย
ภาวะที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้การทำงานของหัวใจมีความผิดปกติอยู่ตลอดเวลา และมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว รวมไปถึงการเสียชีวิตได้ในทันทีอีกด้วย
สาเหตุของโรคลิ้นหัวใจ
สาเหตุของโรคลิ้นหัวใจ มีหลากหลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งก็มีดังนี้
1.อายุ อายุเป็นสาเหตุอันดับแรกที่มีความสำคัญ เพราะเมื่ออายุมากขึ้นอวัยวะจะเสื่อมลง จึงทำให้ลิ้นหัวใจลดการทำงานลงจนปิดไม่สนิท
2.การติดเชื้อ หากได้รับการติดเชื้อจะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณลิ้นหัวใจเกิดการอักเสบ ส่งผลให้ร่างกายต้องสร้างพังผืดขึ้นมาที่บริเวณลิ้นหัวใจ
เพราะฉะนั้น จึงทำให้มีปัญหาในส่วนของการเกิดโรคลิ้นหัวใจได้หลากหลายรูปแบบ อันเนื่องจากเลือดเกิดการไหลสวนกลับไปยังบริเวณเดิม
3.โรคอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดแดง และโรคอื่นๆ ก็ยังสามารถที่จะส่งผลทำให้เกิดโรคลิ้นหัวใจได้เช่นเดียวกัน
อาการของโรคลิ้นหัวใจ
การเป็นโรคลิ้นหัวใจสามารถที่จะแสดงอาการเฉพาะได้อย่างหลากหลาย โดยสามารถที่จะจำแนกอาการต่างๆ ออกได้เป็นระยะ ดังนี้
1.อาการระยะที่ 1 เป็นระยะที่ยังไม่มีการแสดงอาการจำเพาะมากมาย โดยช่วงแรกนั้นจะมีเพียงแค่การส่งเสียงฟู่
สาเหตุเป็นเพราะเลือดไหลผ่านลิ้นหัวใจที่มีความผิดปกติ จึงทำให้เกิดเสียงขึ้น แต่จะได้ยินก็ต่อเมื่อใช้หูฟังของแพทย์
2.อาการระยะที่ 2 เป็นระยะที่ลิ้นหัวใจเกิดความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นร่างกายจะมีการแสดงออกของอาการเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยสังเกตได้ดังนี้
- เหนื่อยง่าย
- หายใจลำบาก
- บวมตามอวัยวะต่างๆ
- หัวใจเต้นผิดปกติ
- หลอดเลือดที่ลำคอโป่งมากขึ้น
ทั้งนี้ ยังสามารถสังเกตได้จากอาการในขณะนอน กล่าวคือ ผู้ป่วยจะไม่สามารถนอนนอนราบได้สะดวก เนื่องจากจะมีอาการเหนื่อยง่าย และหายใจลำบาก
การวินิจฉัยโรคลิ้นหัวใจ
การวินิจฉัยโรคลิ้นหัวใจ แพทย์จะเริ่มจากการซักประวัติ เพราะอาจจะต้องมีการวินิจฉัยในส่วนของโรคที่เคยเกิดการเจ็บป่วยในอดีต
หลังจากนั้นจะมีการตรวจร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการฟังเสียงเต้นของหัวใจ การตรวจวัดความดันโลหิต การอัลตราซาวด์เพื่อตรวจหัวใจ
นอกจากนี้ แพทย์ก็อาจจะต้องใช้คลื่นไฟฟ้าเพื่อตรวจหัวใจ ในบางรายแพทย์ก็อาจจะใช้การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงที่มีความถี่สูง
วิธีรักษาโรคลิ้นหัวใจ
การรักษาโรคลิ้นหัวใจ ปัจจุบันการรักษาได้ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ ดังนี้
1.การซ่อมลิ้นหัวใจ (Vale Repair) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษา โดยจะแบ่งการรักษาออกไปตามสาเหตุที่เกิดขึ้น ดังนี้
ความเสื่อมสภาพ หากเป็นการเสื่อมสภาพตามวัย ก็จะทำให้ลิ้นหัวใจเกิดการย้วย การรักษาจึงจะทำให้ลิ้นหัวใจกระชับมากขึ้น
โรคไข้รูมาติก เป็นโรคที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรค เพราะฉะนั้นจึงทำให้เกิดพังผืดหรือมีหินปูนเกาะที่ลิ้นหัวใจ
ทางเลือกการรักษาที่ดี คือ การลอกลิ้นหัวใจหรือลอกคราบหินปูนออก แล้วเพิ่มเนื้อเยื่อใหม่เข้าไปแทนที่
2.การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ (Valve Replacement)
เป็นรูปแบบการรักษาที่ง่ายอย่างมากสำหรับทางการแพทย์ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนลิ้นหัวใจใหม่ ซึ่งก็มีหลักการเปลี่ยนด้วยวัสดุ 2 ประเภทดังนี้
ลิ้นหัวใจจากธรรมชาติ เป็นการผ่าตัดโดยใช้ลิ้นหัวใจที่มาจากสัตว์ เช่น หมู วัว แต่เมื่อทำการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจใหม่แล้ว
การทำงานของหัวใจก็จะกลับมาเป็นปกติดังเดิม แต่ทั้งนี้อาจจะต้องระมัดระวังหินปูนที่อาจจะกลับมาเกาะได้อีก
ลิ้นหัวใจโลหะ เป็นลิ้นหัวใจที่ทนทานมากกว่า แต่ทั้งนี้อาจจะมีความลำบาก เนื่องจากว่าต้องคอยรับประทานยาสลายลิ่มเลือดไปตลอดชีวิต
3.ปรับพฤติกรรม
ผู้ป่วยควรปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายมากขึ้น หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
ตลอดจนไม่ควรปล่อยตัวให้เครียดเกินไป พร้อมกับนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งเป็นพื้นฐานการดูแลสุขภาพที่ดีและถูกต้อง
ก็จะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น และลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยเป็นโรคต่างๆ ได้มากขึ้นแล้ว
วิธีป้องกันโรคลิ้นหัวใจ
วิธีป้องกันโรคหัวใจ สามารถที่จะเริ่มทำได้จากการดูแลตัวเอง ซึ่งมีหลากหลายวิธีคือ
1.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่
2.จำกัดการบริโภคแป้ง และไขมันให้พอต่อความต้องการของร่างกาย
3.หมั่นตรวจสุขภาพทุกปี
4.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
5.เลิกดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
พฤติกรรมเหล่านี้ ล้วนเป็นปัจจัยที่จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการเป็นโรคอื่นๆ ด้วยเช่นเดียวกัน เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือด โรคอ้วน และโรคอื่นๆ
Credit : heartfoundation.org.au
โรคลิ้นหัวใจ เป็นอีกหนึ่งภัยเงียบที่อยู่ใกล้ตัวคนเราทุกคน โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในคนทุกเพศทุกวัย
โดยเฉพาะคนที่อายุมากที่ลิ้นหัวใจเกิดความเสื่อมสภาพได้ง่าย และคนที่ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ ง่ายต่อการติดเชื้อโรคต่างๆ
ซึ่งเมื่อร่างกายเกิดการติดเชื้อแล้ว ย่อมทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคได้ง่ายดายขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งโรคลิ้นหัวใจเช่นกัน
การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ และควรพบแพทย์เมื่อพบความผิดปกติ ย่อมทำให้รู้เท่าทันโรคและรักษาหายได้เร็วแน่นอน