สำหรับสาวๆ ส่วนของใบหน้า ถือว่าเป็นจุดที่ต้องดูแลรักษาอย่างดีที่สุด เพื่อให้มีใบหน้าดูสวยงามหน้าดึงดูด แต่ต้องไม่ลืมส่วนอื่นๆ ของร่างกายด้วยเช่นกันที่ต้องดูแลเอาใจใส่
โดยเฉพาะ ผิวบริเวณลำคอของเรา สำหรับสาวๆ ที่อายุเริ่มมากขึ้นไขมันจะเริ่มสะสมบริเวณใต้คาง ทำให้เกิดชั้นค้างดูหย่อนยาน จนดูแล้วไม่สวยทำให้สาวๆ เกิดความหนักใจอย่างมากในส่วนนี้
คางสองชั้น เกิดจาก การสะสมของชั้นไขมันบริเวณผิวใต้คาง ยิ่งคนอายุมากและไม่ดูแลควบคุมการกิน หรือควบคุมน้ำหนัก ไขมันจะยิ่งสะสมในจุดใต้คางมากขึ้น
ทำให้เกิดคางย้อย คางสองชั้น หรือที่เรียกกันว่า เหนียงใต้คาง นั้นเอง
วิธีลดค้างสองชั้น ด้วยวิธีธรรมชาติ
1.ออกกำลังกาย
วิธีลดน้ำหนักและลดไขมันในร่างกายที่ปลอดภัย และมีประโยชน์แก่ส่วนอื่นๆในร่างกายที่สุด การออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญชั้นไขมันให้ลดลง
กล้ามเนื้อใต้คาง ก็จะกระชับเต่งตึงขึ้น ถ้าออกกำลังกายเป็นประจำ นอกจากค้างสองชั้น จะหมดแล้ว ร่างกายส่วนอื่นๆ จะกระชับและผอมเพียวขึ้นด้วย
2.ควบคุมการกินอาหาร
วิธีลดน้ำหนักอีกหนึ่งวิธี ที่มีประโยชน์แก่ตนเอง แต่ต้องใช้กำลังใจอย่างมาก ในการที่จะลดน้ำหนัก เพราะการควบคุมการกินอาหารนั้น เราจะต้องไม่กินอาหารที่เรากินจนติดเป็นนิสัย
เช่น ของหวาน อาหารที่มัน อาหารทอด ซึ่งอาหารจำพวกจะทำให้เกิดการสะสมของชั้นไขมัน ซึ่งทำให้เกิดคางสองชั้น นั่นเอง
ดังนั้น เราควร เลือกกินอาหารที่ ทำให้เกิดการสะสมไขมันมากเกินไป เช่น ผักใบเขียว ผลไม้รสเปรี้ยว ถั่วชนิดต่างๆ เป็นต้น
3.เคี้ยวหมากฝรั่ง
ถือว่า เป็นการบริหารกล้ามเนื้อส่วนกล้ามฟันของเรา ให้ขยับตัวตลอดเวลา เหมือนออกกำลังกาย ซึ่งมีส่วนทำให้กล้ามเนื้อใต้คางได้เคลื่อนไหว ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้คางสองชั้นหรือเหนียงใต้คางดูลดลง
วิธีลดค้างสองชั้นด้วยวิธีศัลยกรรม
1.ร้อยไหมดึงคาง
วิธีนี้ถือว่า เป็นวิธีศัลยกรรมที่ปลอดภัยที่สุดแต่ก็มีความเสียงอยู่ดี โดยการร้อยไหมดึงคาง จะทำการคึงรอยย่นของค้างที่ทำให้เกิดเหนียงคางขึ้น
เพื่อยกกระชับคางของเราให้สวยเป็นรูปตัววี แต่สำหรับคนที่มีไขมันสะสมใต้คางมากเกินไป จะไม่เหมาะกับวิธีนี้
เพราะวิธีการร้อยไหมดึงคาง เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหนังบริเวณคางเหี่ยวย่นมากกว่า
2.ดูดไขมันใต้คางวิธีนี้จะมี 2 วิธีหลักๆ คือ
2.1.ใช้คลื่นเสียงสลายไขมัน ถึงวิธีนี้จะปลอดภัยและความเสี่ยงน้อยกว่า วิธีฉีดสารละลายไขมัน แต่ราคาในการดูดไขมันจะแพงกว่า
2.2.ฉีดสารละลายไขมัน
ถือว่า เป็นวิธีการดูดไขมันที่มีความเสี่ยง แพทย์ผู้ทำการดูดไขมันด้วยวิธีการฉีดสารละลายไขมัน มีความชำนาญอย่างมากในการกะปริมาณในแต่ละครั้ง
เพราะหลังทำ ถ้าเกิดความผิดพลาดใบหน้าอาจไม่เข้ารูปได้ และการดูดไขมันด้วยวิธีการฉีดสารละลายไขมัน จะต้องเข้ารับการดูดไขมันเป็นประจำ เพราะต้องค่อยๆ ลดที่ละนิด เพื่อลดความผิดพลาดในการรักษา
การดูดไขมัน เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันบริเวณใต้ค้างเยอะมาก ทำให้กำจัดเหนียงใต้ค้างด้วยวิธีอื่นไม่ได้ ก็ขอแนะนำวิธีนี้เป็นอีกทางเลือกใน การรักษาเหนียงใต้คาง
3.ฉีดโบท็อกซ์ Botox คาง V shape
วิธีนี้เหมาะสำหรับ คนที่มีไขมันใต้คางย้อย และมีกล้ามเนื้อมาก เพราะ สารโบท็อกซ์ จะไม่ได้ช่วยลดไขมันให้หน้า V-Shape
แต่จะคลายกล้ามเนื้อใต้ค้างให้เรียวเล็กลง ทำให้คางสองชั้น หรือเหนียงคางดูน้อยลงจนแทบไม่มี
4.เลเซอร์สลายไขมัน
วิธีการใช้เลเซอร์สลายไขมัน ถือว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ปลอดภัย ในการศัลยกรรมแก้ไขคางสองชั้น หรือเหนียงใต้คางอีกวิธีหนึ่ง
โดยแพทย์จะทำการสอดท่อเล็กๆ เข้าสู่ใต่ผิวหนังเพื่อเข้าไปสลายไขมันในจุดที่ต้องการ และทำการดูดไขมันที่เรายิงเลเซอร์แล้วออกมา
การยิงเลเซอร์สลายไขมัน จะเป็นวิธีที่แม่นยำมาก สามารถกำหนดจุดที่ต้องการดูดไขมันได้อย่างชัดแจนที่สุด และการฟื้นตัวหลังรักษาจะเร็วมาก
5.ศัลยกรรมผ่าตัดยกกระชับคางสองชั้น
วิธีนี้ถือว่า เป็นวิธีที่เห็นผลได้จริงที่สุดแต่เพราะเป็นการผ่าตัด ทำให้อาจเกิดผลข้างเคียงหลังรักษาได้ แพทย์จะทำการผ่าตัดส่วนที่เกิดคางสองชั้น
เพื่อนำไขมันที่เป็นส่วนเกินออก และ ดึงยกกระชับผิวใต้คาง ให้เต่งตึง ใบหน้ากลับมาเรียวเล็กอีกครั้ง
การลดปัญหาคางสองชั้นหรือเหนียงใต้คางมีมากมาย แต่ที่อยากแนะนำที่สุดคือ การป้องกันก่อนที่จะเกิดคางสองชั้น หรือเหนียงใต้คางจะดีที่สุด
เพราะเมื่อเกิดขึ้นแล้วเราต้องเสียเวลาในการดูแล ทั้งๆ ที่เราน่าจะเสียเวลาในการป้องกันมากกว่า เพราะไม่ต้องทนเฝ้ามองให้คางของเราค่อยๆ กลับเป็นสภาพเดิม
ซึ่งเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ เพราะร่างกายเป็นของเราเราควรดูแลให้ดีที่สุด