สาวๆ คนไหนที่เคยมีอาการอ่อนแรงของขาแบบฉับพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ จนไม่สามารถเดินได้ อาการอื่นๆ ก็ไม่มีปรากฏให้เห็นมาก่อนหน้านี้
อาจเป็นภาวะของเส้นประสาทไขสันหลังที่เกิดอักเสบขึ้นอย่างเฉียบพลัน หรือที่เรียกกันว่า “โรคไขสันหลังอักเสบเฉียบพลัน” (Acute transverse myelitis)
เป็นภาวะอย่างหนึ่งที่พบได้ แต่ไม่บ่อยนัก และมักเป็นชื่อที่ไม่ค่อยคุ้นหู อย่างไรก็ตาม เมื่อพบอาการดังกล่าว
ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้เกิดความพิการถาวร หรือถึงขั้นเสียชีวิตกันได้เลยทีเดียวค่ะ
อะไรคือโรคประสาทไขสันหลังอักเสบเฉียบพลัน
โรคนี้เป็นภาวะอักสบของประสาทไขสันหลังแบบ “เฉียบพลัน” ที่เกิดขึ้นจากการที่เซลล์ประสาทถูกทำลาย
และเซลล์ประสาทเหล่านั้นอยู่บริเวณไขสันหลังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นส่วนหน้าหรือส่วนหลัง
ทำให้ผู้ป่วยเกิดความผิดปกติในการทำงานของร่างกาย พบได้ทั้งในเด็ก อายุตั้งแต่ 10-19 ปีขึ้นไป ส่วนในผู้ใหญ่จะพบได้ช่วงอายุ 30-40 ปี
การอักเสบอย่างเฉียบพลันที่เกิดขึ้นกับประสาทไขสันหลัง จนเสี่ยงต่อการพิการหรือเสียชีวิตได้นั้น
เนื่องมาจากระบบประสาททั้งหมดที่รวมกันอยู่เป็นระบบประสาทส่วนกลาง (Central nervous system: CNS)
มีหน้าที่รับส่งสัญญาณจากสมองไปสู่เส้นประสาทกล้ามเนื้อและอวัยวะภายในร่างกาย
ทำให้กล้ามเนื้อและอวัยวะสามารถทำงานได้ ตำแหน่งของไขสันหลังจะเริ่มตั้งแต่ก้านสมอง
ไปจนถึงเอว อย่างไรก็ตามโรคนี้เป็นโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เป็นโรคที่พบได้ยาก
จึงไม่มีการศึกษาข้อมูลเท่าใดนัก ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจากความเสื่อมสภาพของปลอกประสาท หรือโรคอื่นๆ ที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงเหล่านี้ก็เป็นได้
สาเหตุของการเกิดโรคไขสันหลังอักเสบเฉียบพลัน
การอักเสบของประสาทไขสันหลัง เชื่อว่า เกิดขึ้นจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
เซลล์ประสาทที่ถูกทำลายอันเนื่องมาจากเชื้อไวรัส ส่งผลให้เกิดการอักเสบที่ไขสันหลัง บางรายรุนแรงขนาดที่เซลล์ไขสันหลังเกือบทุกส่วนถูกทำลาย
จนกลายเป็นความผิดปกติในระดับรุนแรง โดยสาเหตุหลักๆ ที่พบจนทำให้เกิดการอักเสบแบบเฉียบพลันคือ
การติดเชื้อไวรัส, การได้รับวัคซีนบางชนิด, โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง, โรคนิวโรมัยอิไลติส ออพติกา และ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น
ลักษณะอาการของโรคที่พบ
อาการผิดปกติที่สังเกตได้อย่างชัดเจนของโรคนี้ คือภาวะอ่อนแรงของขาทั้งสองข้าง
อาการชาตั้งแต่ไขสันหลังลงมา หรือบางรายก็จะชาตั้งแต่สะดือลงมา อาจมีอาการปวด
หรือสึกร้อนเย็นแบบผิดปกติร่วมด้วย ทั้งนี้ผู้ป่วยมักจะมีอาการปัสสาวะและอุจจาระลำบาก
ความต้องการทางเพศลดลง การชาอาจจะเริ่มที่ปลายเท้าทั้งสองข้าง จากนั้นก็จะลุกลามไปยังขา
ตามมาด้วยภาวะอ่อนแรง หากไม่ได้ทำการรักษา จะส่งผลให้เป็นอัมพาต ไม่สามารถเดินได้
รุนแรงจนกระทั่งไม่สามารถปัสสาวะและอุจจาระเองได้ โดยอาการทั้งหมดเหล่านี้จะรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง
ดังนั้นเมื่อผู้ป่วยมีอาการผิดปกติที่หาสาเหตุไม่ได้ จึงควรรีบเข้ารับการตรวจจากแพทย์โดยด่วนที่สุด
ขั้นตอนในการรักษา ไขสันหลังอักเสบเฉียบพลัน
เบื้องต้นแพทย์จะทำการตรวจผู้ป่วยเพื่อหารีเฟล็กของข้อ ส่วนมากหากพบว่าขาทั้งสองไม่มีความรู้สึกแล้ว
จะไม่มีความเจ็บปวดเกิดขึ้น อาจจะทำการตรวจด้วยวิธีเอกซเรย์และเจาะไขสันหลังเพิ่มเติมเพื่อให้มั่นใจ
ร่วมกับการตรวจหาโรคอื่นๆ ร่วมด้วย ผู้ป่วยที่พบว่าเป็นโรคไขสันหลังอักเสบเฉียบพลัน ในขั้นตอนการรักษา 1 ใน 3
จะสามารถหายกลับมาเป็นปกติได้ อย่างไรก็ตามผลการรักษาจะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าผู้ป่วยจะกลับมาหายเป็นปกติได้หรือไม่
ส่วนใหญ่เมื่อเข้ารับการรักษาจากแพทย์แล้ว อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องประมาณ 12 สัปดาห์
บางรายก็ใช้เวลามากถึง 2 ปี ทั้งนี้ผู้ป่วยที่หายแล้วมักไม่หายขาด มีอาการอ่อนเพลีย
หรือรุนแรงจนถึงขั้นเป็นอัมพาตถาวรได้ การฟื้นตัวจะเกิดขึ้นได้เองกรณีที่โรคไม่รุนแรงมากนัก
จะเกิดในกลุ่มที่มีอาการอย่างเฉียบพลันรวดเร็ว แพทย์จะทำการรักษาตามอาการ และใช้วิธีกายภาพบำบัดร่วมด้วยในระหว่างนี้
Photo Credit : verywell.com
สำหรับการดูแลตัวเองของผู้ป่วย เมื่อพบว่าตนเองเป็นโรคไขสันหลังอักเสบเฉียบพลัน
คือการหมั่นกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอตามแพทย์สั่ง ฝึกการขับถ่ายด้วยตัวเอง
ทานผักและผลไม้ให้เพียงพอต่อวันเพื่อป้องกันอาการท้องผูก ทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ให้ถูกต้อง
ป้องกันการติดเชื้อบริเวณระบบทางเดินปัสสาวะ หากมีอาการรุนแรงเกิดขึ้น อย่างอาการอ่อนแรง
มีไข้สูง ปัสสาวะไม่ออก ก็ควรรีบเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์โดยด่วน เพราะผู้ป่วยที่หายแล้ว สามารถที่จะกลับมาเป็นโรคนี้ซ้ำได้อีก