โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (เฉียบพลัน) เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจที่เรามักจะพบเห็นได้ทั่วไปตามละคร หรือนิยายต่าง ๆ มากที่สุด
ที่เมื่อถึงเวลาแสดงอาการ ผู้ป่วยก็จะมีอาการเจ็บปวดบริเวณหัวใจ จนถึงขั้นหมดสติได้ ซึ่งบางคนที่ได้เห็นก็อาจจะมีข้อสงสัยว่า
โรคนี้เกิดขึ้นจากอะไร ความเครียดมีส่วนที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้จริงหรือไม่ และถ้าหากถึงขั้นต้องผ่าตัดจะมีโอกาสหายหรือเปล่า
เราจึงได้รวบรวมข้อสงสัยทั้งหมดที่มีเกี่ยวกับโรคนี้ มาไว้ในบทความนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (เฉียบพลัน) คืออะไร ?
โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (เฉียบพลัน) (Argina Pectoris) เกิดจากปัญหาสำคัญ ก็คือ การที่เลือดจับตัวกันเป็นลิ่มหรือเป็นก้อน
จนไปอุดตันบริเวณหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงที่หัวใจตามปกติได้
รวมทั้งยังไม่สามารถถ่ายออกซิเจนไปได้ด้วย หากทิ้งไว้ระยะนานก็อาจทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือที่เรียกกันว่าหัวใจวาย
โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (เฉียบพลัน) นี้ เป็นโรคที่ได้รับการบันทึกไว้ว่า เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจที่พบมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก
มีโอกาสเกิดขึ้นในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่น่าแปลกใจก็คือ เป็นโรคที่มีผู้เสียชีวิตเป็นอันดับต้น ๆ
ในบรรดาประเทศที่มีการพัฒนาทางด้านการแพทย์แล้ว รวมทั้งประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างประเทศไทยด้วย
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (เฉียบพลัน)
สำหรับข้อดีของโรคนี้นั้น มีอยู่อย่างหนึ่งคือ มักจะไม่เกิดกับผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
(ยกเว้นผู้ที่มีกรรมพันธุ์คนในครอบครัวเคยเจ็บป่วย หรือเสียชีวิตด้วยโรคนี้มาก่อน) แต่สำหรับข้อเสียที่เรียกว่าสำคัญมาก ๆ
คือ มีปัจจัยเสี่ยงที่อาจจำให้เกิดโรคนี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพดังต่อไปนี้
- เป็นผู้สูบบุหรี่เป็นประจำ หรือต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานาน
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- ผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย จนถึงขั้นเป็นโรคอ้วน (ประเมินได้จากการมีค่าดัชนีมวลกายเกิน 30 ขึ้นไป)
- ผู้ที่เป็นโรคเครียด หรือมีภาวะเครียดแทบจะตลอดเวลา
- ผู้ที่มีปัญหาเรื่องไขมันในเส้นเลือดสูง
- ผู้ที่มีปัญหาเรื่องความดันโลหิตสูง
- ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง
- ผู้สูงอายุที่ไม่ค่อยได้ดูแลสุขภาพตัวเอง (ชาย เริ่มที่ 55 ปี หญิง เริ่มที่ 65 ปี)
อาการของโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (เฉียบพลัน)
เมื่อใดก็ตามที่หัวใจเริ่มขาดเลือด ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บ หรือแน่นบริเวณหน้าอก คล้าย ๆ กับถูกกระแทก หรือถูกบีบบริเวณหน้าอกอย่างรุนแรง
ในรายที่มีอาการหนักมาก ๆ อาจเจ็บร้าวไปถึงบริเวณลิ้นปี่ ไหล่ คอ และหลัง ร่วมกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียนอีกด้วย
บางรายอาจจะมีอาการหอบอย่างรุนแรง ทั้งที่ไม่เคยเป็นโรคหอบมาก่อน และถ้าหากมีอาการหัวใจขาดเลือดมาก อาจถึงขั้นหมดสติได้
ปกติแล้ว อาการโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จะแสดงอาการตั้งแต่ 3-5 นาทีขึ้นไป ซึ่งผู้ป่วยอาจจะมีอาการดีขึ้น หรือแย่ลงก็ได้
ซึ่งลักษณะพิเศษของโรคนี้ที่สามารถสังเกตได้ง่าย นอกจากอาการเจ็บหน้าอกพียงอย่างเดียว คือการสอบถามคนรอบข้างว่า
ได้อยู่ในสถานที่ ๆ มีปัญหาเกี่ยวกับอุณหภูมิหรือไม่ (ร้อนจัด หรือเย็นจัด) ได้สูบบุหรี่หรือเปล่า หรือเกิดความเครียดใด ๆ ก่อนหน้านี้หรือไม่
เพราะถ้าหากเกิดปัจจัยเหล่านี้ก่อนหน้า ก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้ได้สูง และถ้าหากผู้ป่วยได้อมยาขยายหลอดเลือดไว้ใต้ลิ้น จะมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
วิธีรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (เฉียบพลัน)
หากสงสัยว่าเป็นโรคนี้ แล้วแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจริง ก็จะมีแนวทางในการรักษา ตามความรุนแรง 3 วิธี คือ
การรักษาด้วยยา – หากผู้ป่วยพึ่งเป็นในระยะเริ่มต้น หรือมีอาการไม่รุนแรงนัก แพทย์ก็อาจจะทำการรักษาด้วยยาขยายหลอดเลือดหัวใจ
ยาสลายลิ่มเลือด หรือยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด เพื่อบรรเทาอาการหากเกิดแบบเฉียบพลันไปก่อน
การรักษาด้วยการทำบอลลูน – แต่ถ้าหากมีอาการบ่อยขึ้น หรือไม่สามารถรักษาด้วยยาได้แล้ว แพทย์ก็อาจจะให้เลือกวิธีการรักษา
ด้วยการทำบอลลูน หรือใส่ขดลวดเพื่อช่วยให้การทำงานของหัวใจดีขึ้น หลอดเลือดมีการขยายตัวมากยิ่งขึ้น
การรักษาด้วยการผ่าตัดทำบายพาส – เป็นวิธีรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง หรือผู้ป่วยที่ต้องการรักษาโรคนี้ให้หายขาด
โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเปลี่ยนหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ ถึงแม้จะมีค่ารักษาที่แพง แต่ก็รับประกันผลได้ถึง 95% และยังใช้เวลาในการพักฟื้นไม่นาน
วิธีป้องกันโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (เฉียบพลัน)
สำหรับการป้องกันโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันนั้น สามารถทำได้โดยการลดปัจจัยเสี่ยงที่เป็นสาเหตุหลักของการเป็นโรคนี้ด้วยการ
- ไม่สูบบุหรี่ หรือเลิกสูบบุหรี่
- ออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วนจนเกินไป
- เลือกทานอาหารที่ถูกต้องตามโภชนาการ และไม่มีไขมันมาก
- หากเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง ก็ต้องปฏิบัติตามการรักษาของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้
- รู้จักผ่อนคลาย และหางานอดิเรกทำเพื่อไม่ให้เกิดความเครียด
มีเพียงปัจจัยเสี่ยงเพียง 2 ประเภท ที่ไม่สามารถป้องกันได้แบบเห็นผล คือเรื่องของกรรมพันธุ์ และการสูงอายุ
แต่ถึงกระนั้น หากพักผ่อนอย่างเพียงพอ และดูแลตัวเองดีอย่างต่อเนื่อง ก็ยังช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
Credit : antiagingcostarica.com
โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (เฉียบพลัน) เป็นโรคใกล้ตัวที่ใคร ๆ ก็สามารถเป็นได้ และอันตรายมากกว่าที่คิด
เพราะฉะนั้นหากไม่อยากเป็นโรคนี้ ก็ควรเริ่มดูแลสุขภาพตัวเองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และบอกต่อคนรอบข้างให้มากที่สุด
เพราะถ้าเป็นแล้วก็ยากที่จะรักษาให้หาย หรือถ้าต้องการรักษาให้หาย ก็ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงมากอีกด้วย