โรคซีวีเอส หรือ โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (Computer Vision Syndrome) คือโรคที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการใช้งานสายตาจ้องหน้าจอคอมฯ หรือหน้าจอมือถือทั้งหลาย ติดต่อกันเป็นเวลานาน
สาวๆ ที่ใช้งานโทรศัพท์สมาร์ทโฟน แท็บเลตและคอมพิวเตอร์จนเกินไป ส่งผลให้สายตาเกิดอาการล้า อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว
หากสาวๆ พบว่า ตัวเองใช้งานคอมพิวเตอร์นานเกินกว่า 2-3 ชั่วโมงขึ้นไป โดยไม่ยอมพักสายตา ต้องระวังกับความเสี่ยงต่อโรคนี้
ส่วนใครที่อยากถนอมสายตาของตัวเองเอาไว้ ก็ควรรู้จักวิธีป้องกัน พร้อมบำรุงไม่ให้เซลล์ประสาทตาเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควรด้วยค่ะ
ทำความรู้จักกับโรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม
สำหรับอาการของโรคนี้ มักจะเกิดขึ้นหากมีการจ้องสายตาอยู่กับหน้าจอนานเกินกว่า 2-3 ชั่วโมงขึ้นไป
ส่งผลให้เกิดอาการปวด ตามัว แสบตา มีภาวะเครียดโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากการใช้สายตาเพ่งเป็นเวลานาน
บางรายหากอาการรุนแรง อาจมีอาการปวดศีรษะ อยากอาเจียน และรู้สึกไม่มีสมาธิตามมาได้
ต้นตอของการเกิดอาการ มาจากการจ้องอยู่หน้าจอนานๆ จะทำให้เราลืมตัว กระพริบตาน้อยลง บวกกับแสงที่สะท้อนมาจากจอ
ส่งผลให้ตาเกิดอาการเมื่อยล้า ไม่ว่าจะเป็นแสงที่จ้าเกินไป หรือแสงสว่างที่ไม่เพียงพอ
อาการเหล่านี้พบได้ในกลุ่มสาวๆ ที่ใช้ชีวิตในเมือง ทำงานอยู่ภายในออฟฟิศ ใช้เวลาจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน
อีกทั้ง ยังมีมือถือสมาร์ทโฟนที่คอยดึงดูด จึงทำให้เกือบทั้งวันสายตาแทบจะไม่ได้พักผ่อนจากสิ่งเหล่านี้เลย
แม้บางคนอาการจะเป็นเพียงเล็กน้อย ไม่บั่นทอนสุขภาพชีวิตนัก แต่หากปล่อยทิ้งเอาไว้นาน
จะส่งผลให้ดวงตาเสื่อมสภาพ สายตาสั้นหรือยาวกินไป อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดต้อหินเรื้อรัง
เยื่อบุตาหรือม่านตาอักเสบ ไปจนถึงโรคที่เกี่ยวเนื่องกับ สุขภาพกายอย่างภูมิแพ้ โรคเครียด ซึมเศร้า และโรคหวัด เป็นต้น
การถนอมสายตาเมื่อจำเป็นต้องอยู่กับหน้าจอเป็นเวลานาน
อาจเลือกไม่ได้หากจะต้องละสายตาจากหน้าจอตลอดทั้งวัน เพราะหน้าที่การงานส่วนใหญ่ในปัจจุบัน
มีคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องอำนวยความสะดวก สมาร์ทโฟนทั้งหลายก็ช่วยให้การติดต่อเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
การดูแลสายตาในระหว่างวันจึงเป็นสิ่งจำเป็น เบื้องต้นการถนอมสายตาอย่างง่ายๆ
คือการฝึกกระพริบตาให้บ่อยขึ้น หากรู้สึกแสบตา สามารถใช้น้ำตาเทียมหยอดเพื่อลดอาการระคายเคืองให้น้อยลง
ปรับเปลี่ยนสภาพห้องทำงานให้เหมาะสม มีแสงสว่างที่เพียงพอ หลีกเลี่ยงการวางโต๊ะทำงาน
เอาไว้ตรงจุดที่มีแสงสะท้อนเข้ามาจากหน้าต่าง รวมไปถึงหลอดไฟภายในห้อง
จะต้องไม่สะท้อนเข้าสู่ดวงตาโดยตรง การวางตำแหน่งจอภาพ จะต้องไม่วางหันเข้ากับหน้าต่างหรือประตู
ที่จะทำให้เกิดแสงสะท้อนในจอ วางตำแหน่งจอให้อยู่ในระยะที่สายตามองเห็นได้ชัด
ปรับเก้าอี้ให้พอดี เพื่อให้หน้าจอตรงกับตำแหน่งของดวงตาพอดี หลังจากใช้งานสายตาติดต่อกันนานกว่า 1 ชั่วโมง
ควรหยุดพักสายตาประมาณ 5-10 นาที ละสายตาจากหน้าจอ จ้องมองออกไปไกลๆ แบบไม่โฟกัส
หรือจ้องมองต้นไม้สีเขียว หรือจะใช้วิธีหลับตาให้ผ่อนคลายสักพักก่อนก็ได้
อย่างไรก็ตาม สาวๆ ควรสังเกตความถี่ในการกระพริบตา หากนั่งอยู่หน้าจอ ควรกระพริบให้ถี่ขึ้น
เพื่อป้องกันอาการตาแห้ง อย่างน้อย 20-22 ครั้งต่อนาที (เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่จ้องหน้าจอแบบไม่รู้ตัว
อัตราการกระพริบจะลดลงมาอยู่ที่ 6-8 ครั้งต่อนาทีเท่านั้น) ส่วนระยะของจอคอมพิวเตอร์
ระยะระหว่างตัวเรากับจอให้ห่างกันที่ประมาณ 50-70 เซนติเมตร จอ วัดจากจุดศูนย์กลาง
ให้อยู่ในตำแหน่งต่ำกว่าระดับสายตา 4-9 นิ้ว โดยไม่ควรให้หน้าจออยู่สูงหรือต่ำเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการเมื่อยล้าตามมาได้นั่นเอง
วิตามินเอ กับการบำรุงสายตา
เมื่อการทำงานหนักอยู่หน้าจอนานๆ การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์สำหรับดวงตาเป็นสิ่งสำคัญ
ไม่แพ้การดูแลสายตาด้วยการพักผ่อน วิตามินที่มีประโยชน์จะช่วยเข้าไปซ่อมแซมเซลล์ดวงตาที่เสียหาย
ทำหน้าที่ปกป้อง และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดความเสื่อมสภาพให้ช้าลง
หลักๆ ของวิตามินจำเป็นที่สาวๆ ควรรู้ คือวิตามินเอ ที่มีส่วนประกอบของลูทีนและแซนทีน
อันมีหน้าที่ช่วยบำรุงสายตาได้อย่างดีเยี่ยม หน้าที่ของสารอาหารทั้งสองจะช่วยกรองแสง
ป้องกันรังสีต่างๆ ที่จะทำอันตรายต่อดวงตา และลดการถูกทำลายของเซลล์ภายในจอประสาทตา
เราสามารถพบวิตามินเอ ได้จากอาหารในธรรมชาติหลายชนิด เช่น ไข่แดง ฟักทอง ตับหมู ตับไก่ เป็นต้น
อีกทั้งยังสามารถพบลูทีนและซีแซนทีนได้ในผักและผลไม้สีเขียวเข้มและสีเหลือง เช่น ผักโขม ผักคะน้า ข้าวโพด เป็นต้น
การกินอาหารให้หลากหลาย จะช่วยให้สาวๆ ได้รับสารอาหารทั้งสองชนิดอย่างครบถ้วน
เมื่อสุขภาพตาได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ ก็จะช่วยลดการเกิดโรคต้อกระจก และโรคจอตาเสื่อมให้น้อยลงได้
Photo Credit : cvilleeyecare.com
อย่างไรก็ตาม หากสาวๆ มีอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับดวงตา ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ
ทางที่ดีควรเข้ารับการตรวจจากแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ทราบได้ว่าดวงตาของสาวๆ ยังคงปกติอยู่เช่นเดิมหรือไม่
และอย่าลืมถนอมสายตาเอาไว้ให้มากที่สุด เพราะนี่คืออวัยวะชิ้นสำคัญของร่างกาย ที่จะช่วยให้เรามองเห็นและทำหน้าที่ต่างๆ ได้อย่างเต็มสมรรถภาพ