ยูเวียอักเสบ ภัยเงียบที่พึงระวัง เสี่ยงรุนแรงถึงขั้นตาบอด

uveitis อาการ

สาวๆ เคยมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตากันบ้างหรือไม่คะ ? ด้วยอาการที่ดูเหมือนจะไม่ใช่ความผิดปกติทั่วไป

ที่คิดว่ามาจากการใช้สายตาหนักระหว่างทำงาน จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ

ลักษณะอาการที่มักมีน้ำตาไหลอยู่บ่อยๆ จนสร้างความรำคาญใจ ตามัว มองเห็นไม่ชัด ปวดเบ้าตา

และยังสังเกตได้ถึงอาการแดงรอบๆ เบ้าตา ชนิดที่ว่าพักผ่อนแล้วก็ไม่หายดี

แถมอาการที่เกิดขึ้นยังเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้อาจจะมีสาเหตุมาจากโรคของยูเวีย

ที่เรียกว่า “ยูเวียอักเสบ” (Diseases of the Uveal tract) อวัยวะเล็กๆ ส่วนนี้มีความสำคัญต่อดวงตาอย่างมากมาย

เป็นส่วนของผนังชั้นกลางของนัยน์ตาระหว่างตาขาวและเรตินา เมื่อเกิดการอักเสบขึ้น

จะส่งผลให้เกิดความผิดปกติที่ดวงตาที่แตกต่างกันออกไป หากปล่อยทิ้งเอาไว้ไม่ทำการรักษา

เสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคต้อหิน ร้ายแรงจนถึงขั้นตาบอดกันได้เลยทีเดียว

ยูเวียอักเสบคืออะไร ?

ยูเวีย (Uvea) เป็นแผ่นผนังบางๆ ภายในดวงตาของเรา คือส่วนของผนังภายในลูกตาที่กลั้นกลางระหว่างเรติน่าและตาขาว

เนื้อเยื่อจะเป็นสีคล้ายกับผลขององุ่นดำ หน้าที่หลักของผนังนี้เต็มไปด้วยเนื้อเยื่อที่มีเซลล์เป็นสารให้สี

มีหลอดเลือดเข้ามาหล่อเลี้ยงและไหลผ่านเป็นจำนวนมาก ช่วยส่งผ่านอาหารให้ไปเลี้ยงเซลล์อื่นภายในลูกตา

และเนื่องจากเป็นส่วนที่มีเลือดไหลผ่านมาก ทำให้เกิดความผิดปกติขึ้นได้ง่าย

จากเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่ปะปนมากับเลือด ส่งผลให้ยูเวียเกิดการอักเสบตามมา

ซึ่งอาจลุกลามไปอักเสบร่วมกับเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียง และจอตา

อาการอักเสบนี้พบได้มากในกลุ่มอายุ 20 ปี ถึง 50 ปี การอักเสบจะถูกแบ่งตามตำแหน่งที่เกิดขึ้นหลักๆ

คือการอักเสบของยูเวียส่วนหน้า ส่วนกลาง ส่วนหลัง และเนื้อเยื่อทุกชั้นของยูเวีย

ลักษณะของการเกิดโรคยังมีทั้งชนิดเฉียบพลัน การอักเสบจะดำเนินไปอย่ารวดเร็วภายในระยะเพียง 3 เดือนเท่านั้น

และอีกชนิดคือแบบเรื้อรัง เป็นการอักเสบเป็นๆ หายๆ นาน 3 เดือน

อย่างหลังนี้ผู้ป่วยจะต้องได้รับยาต่อเนื่องกันจนกว่าการอักเสบจะหายเป็นปกติ โดยไม่สามารถหยุดยาได้กลางคัน

อาการที่พบเมื่อยูเวียอักเสบ

สำหรับอาการที่พบ หากเป็นการอักเสบของยูเวียส่วนหน้า จะทำให้เกิดตามัว ปวดตา ไม่สามารถสู้แสงได้

อีกทั้งยังพบรอยแดงรอบดวงตา มีน้ำตาไหลอยู่ตลอดเวลา ภายในจะเต็มไปด้วยเซลล์อักเสบ

ที่จะอยู่บริเวณช่องด้านหน้าลูกตา หากรุนแรงอาจทำให้เกิดหนอง รูม่านตามีขนาดเล็กลง

บางรายอาจถูกดึงมาติดอยู่กับกระจกตาใกล้กับขอบตาดำหรือบริเวณแก้วตา

หาเป็นการอักเสบส่วนหลังของยูเวีย อาการจะเริ่มจากตามัว มองเห็นอะไรลอยไปมาในอากาศ

มีตาแดงเล็กน้อย หรือบางรายก็ไม่มีตาแดงเกิดขึ้น สามารถใช้สายตามองแสงได้ปกติ

แต่อาจมีแพ้แสงบ้างหากจ้าเกินไป มีอาการปวดตา น้ำวุ้นภายในตาขุ่น พบการอักเสบภายของเซลล์ภายใน vitreous

บางรายอาจมีเลือดออกภายในจอตา มีของเหลวไหลออกมาจนทำให้จอตาเกิดหลุดลอก และเกิดอาอาการบวมที่ส่วนกลางของจอตาได้

สาเหตุของการเกิดยูเวียอักเสบ

สาเหตุที่พบ แบ่งออกเป็นสาเหตุที่มาจากร่างกายของเราเอง และสาเหตุที่ไม่สามารถบ่งชี้ได้แน่ชัด

กรณีที่เป็นสาเหตุเฉพาะตำแหน่ง จะมาจากอุบัติเหตุทำให้ดวงตาเกิดการฟกช้ำ เกิดอุบัติเหตุทำให้นัยน์ตาทะลุ

หรือพบสิ่งแปลกปลอมภายในดวงตา การติดเชื้อบริเวณตาดำ ที่ส่งผลให้เกิดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา

อาจรุนแรงจนกลายเป็นหนอง การติดเชื้อทางร่างกาย อย่างโรคคางทูม

การอักเสบชนิด granuloma­tous inflammation และโรคอื่นๆ ที่มีเชื้อโรคปะปนมาในกระแสเลือด ส่งผลให้ดวงตาสัมผัสกับเชื้อโรคเหล่านั้นได้ง่าย

ขั้นตอนในการรักษาโรค

การรักษาโรคนี้ ต้องสังเกตดูจากความรุนแรงที่เกิดขึ้น และสาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้ เมื่อพบว่ามีปัญหายูเวียอักเสบ

ผู้ป่วยควรดูแลตัวเองด้วยการหลีกเลี่ยงการใช้สายตาทำงานหนัก นอนพักนิ่งๆ ใช้การประคบอุ่นเบาๆ ที่ดวงตา

เพื่อลดอาการปวดและการอักเสบ แพทย์จะทำการรักษาตามสาเหตุที่พบ

โดยเน้นการรักษาอย่างจริงจังไปที่ผู้ป่วยเรื้อรัง และในกลุ่มที่มีการอักเสบจุดต่างๆ ของร่างกายในบริเวณใกล้เคียง

เช่น ต่อมทอนซินอักเสบ หรือโพรงกระดูกอักเสบ อันเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดโรคนี้

แพทย์จะมีการใช้ยาหยอดหรือป้าย ซึ่งจะช่วยให้ม่านตาได้ผ่อนคลาย ลดอาการปวดให้น้อยลง

ทำให้สายตาสามารถสู้แสงได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา

การหยอดยา จะทำต่อเนื่องทุก 2 ชั่วโมงเช่นเดียวกับยาป้าย ในผู้ป่วยที่มีรูม่านตาขยายได้ดีพอแล้ว

จะเลื่อนระยะเวลาให้ใช้ยาทุกๆ 4 ชั่วโมงแทน กรณีที่ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต้อกระจก

แพทย์จะให้ยา carbonic anhvdrase inhibiting drug เพื่อช่วยลดความดันภายในลูกตาทุกๆ 6 ชั่วโมง

ยูเวียอักเสบ การอักเสบของยูเวีย

Photo Credit : dailyem.wordpress.com

อาการอักเสบจากยูเวียที่เกิดขึ้น จนส่งผลให้ดวงตาเกิดภาวะผิดปกติเหล่านี้

สาวๆ ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะดวงตาถือว่าเป็นอวัยวะส่วนสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของร่างกาย

หากปล่อยทิ้งไว้จะส่งผลให้การอักเสบลุกลาม เสี่ยงต่อการเกิดโรคต้อกระจก ต้อหิน และตาบอดตามมาได้นั่นเองค่ะ