อาการอ่อนเพลียแบบไร้สาเหตุ อาจเสี่ยงโรค “ไฮโปไกลซีเมีย”

โรคไฮโปไกลซีเมีย วิธีรักษา

อาการอ่อนเพลียทุกวันเป็นประจำจนกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ แม้จะพยายามดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี

หรือนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม แต่ยังกลับรู้สึกง่วงเหงาหาวนอน รู้สึกอยากนอนตลอดเวลา

ตื่นเช้ามาก็ไม่สดชื่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย รู้สึกปวดตามเนื้อตามตัว ทั้งที่ยังไม่เข้าวัยสูงอายุซักหน่อย

พยายามมองหาสาเหตุยังไงก็หาไม่เจอ แถมอาการเหล่านี้ยังส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต

ทำให้ทำงานได้น้อยลง รู้สึกหงุดหงิดต่อสิ่งที่เกิดขึ้น สมรรถภาพต่างๆ ดูย่ำแย่ลงไป

แบบนี้อาจจะเป็นสาเหตุของโรคที่ไม่ค่อยคุ้นหูอย่าง “ไฮโปไกลซีเมีย” (hypoglycemia)

หรือเรียกกันอีกชื่อว่า Chronic fatigue syndrome หรือ CFS เรียกตามชื่อภาษาไทยว่า “โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง”

เกิดขึ้นจาก ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ส่งผลให้ไม่มีเรี่ยวแรงในการเคลื่อนไหวร่างกาย

แต่ในทางการแพทย์แม้จะเรียกโรคนี้ว่าโรค ทว่าจริงๆ แล้วเป็นอาการผิดปกติชนิดหนึ่ง

ที่มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตซ้ำๆ กันมาอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นความเคยชินของร่างกาย จนทำให้เกิดอาการดังกล่าวขึ้นมานั่นเองค่ะ

อะไรคือความผิดปกติที่เรียกว่า ไฮโปไกลซีเมีย?

ไฮโปไกลซีเมีย หมายถึง ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เป็นลักษณะของน้ำตาลที่มีภาวะต่ำและสูงสลับกันไปมาตลอดทั้งวัน

เมื่อใดก็ตามที่ปริมาณน้ำตาลลดลง ก็จะทำให้เราเกิดอาการอ่อนเพลีย ง่วงเหงาหาวนอน ไม่มีเรี่ยวแรง ตามมา

โรคนี้พบได้มากในสังคมยุคใหม่ โดยเฉพาะสาวๆ วัยทำงานที่ต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์อยู่ตลอดเวลา

ไม่ได้เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อโรคใดๆ ทั้งสิ้น แต่มาจากพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตของเราที่ทำร้ายตัวเอง

โดยเฉพาะเรื่องอาการกินอาหารที่ส่งผลให้กลายเป็นโรคอ่อนเพลียเรื้อรังตามมานั่นเอง

สาเหตุของการเกิดโรคอ่อนเพลียเรื้อรัง

โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง เป็นชื่อเรียกของโรคชนิดนี้ที่พอจะทำให้สาวๆ เข้าใจได้ง่าย

จัดได้ว่าเป็นโรคยอดฮิตของผู้คนในสังคมยุคใหม่ สาเหตุมาจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของเราในแต่ละวันแบบไม่รู้ตัว

ด้วยพฤติกรรมการกินแบบผิดๆ อันเป็นปัจจัยสำคัญดังที่กล่าวไปข้างต้น ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำตาลกลูโคสในเลือดต่ำ

น้ำตาลในเลือดจึงขึ้นๆ ลงๆ ไม่อยู่ในจุดสมดุล กระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน (Immune) ของร่างกาย

บวกกับสภาพแวดล้อมในเมืองหลวง มลภาวะทางอากาศ ความเครียดในการทำงาน ความกดดันในการดำเนินชีวิต

การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ และความเร่งรีบ กลายเป็นตัวกระตุ้นให้โรคนี้แสดงผลต่อสุขภาพของสาวๆ มากยิ่งขึ้น

ยิ่งหากปล่อยทิ้งไว้นาน ก็ยิ่งทำให้สุขภาพในด้านอื่นๆ ย่ำแย่ตามไปด้วย

อาการของโรคไฮโปไกลซีเมีย

ภาวะความผิดปกติที่เกิดขึ้นเช่นนี้ สามารถพบได้ถึง 40 อาการได้เลยทีเดียว

ตั้งแต่ความผิดปกติที่พบได้กับร่างกาย ความผิดปกติจากระบบการทำงานต่างๆ

และความผิดปกติทางสภาพจิตใจและระบบประสาท ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคอะไร

เนื่องจากอาการที่มีมากมาย ไม่สามารถระบุลงไปได้ว่าเป็นโรคใดกันแน่ อย่างไรก็ตามด้วยลักษณะของน้ำตาลในเลือด

ที่ขึ้นๆ ลงๆ ตลอดทั้งวัน เมื่อร่างกายอยู่ในช่วงที่มีปริมาณน้ำตาลต่ำ จะทำให้รู้สึกหมดแรง

อ่อนเพลียอย่างหาสาเหตุไม่ได้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ระบบขับถ่ายแปรปรวน กระสับกระส่ายนอนไม่ค่อยหลับ

บางรายอาจมีอาการปวดบริเวณหัว ต้นคอ หัวเข่า สะโพก และบริเวณซี่โครงใกล้รักแร้

เหล่านี้เป็นอาการที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่กลับพบว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของโรคอ่อนเพลียเรื้อรังได้

การรักษาและแก้ไขโรค

การรักษาโรคนี้ทำได้ไม่ยาก สาวๆ สามารถใช้วิธีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองใหม่

ตั้งแต่การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง อาหารรสหวานจัด และเค็มจัด

ปรับอารมณ์ความเครียด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ร่างกายหลั่งอะดรีนาลีนออกมา

ซึ่งสารชนิดนี้จะเข้าไปกระตุ้นการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร นอนไม่หลับ และยังไปส่งผลลดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย

หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า ไม่หมกมุ่นอยู่กับการทำงานตลอดทั้งวัน

ควรหาเวลาผ่อนคลาย นั่งสมาธิ อ่านหนังสือ หรือฟังเพลง รวมถึงกิจกรรมที่ทำแล้วมีความสุข

นอกจากนี้ควรหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

การสูบบุหรี่ และเลือกกินยาที่ไปกระตุ้นระบบประสาท อย่างยานอนหลับ ยากล่อมประสาท และยาคลายเครียด ก็จะช่วยให้อาการต่างๆ ดีขึ้นได้

ไฮโปไกลซีเมีย pantip

Photo Credit : extendbar.com

การรักษาโรคนี้สาวๆ สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่รู้จักปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทุกอย่างที่เคยชิน

แต่เป็นตัวทำลายสุขภาพ นอกจากจะช่วยรักษาโรคอ่อนเพลียเรื้อรังแล้ว ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพให้ดีขึ้นอีกทางหนึ่งด้วยค่ะ