ในยุคที่การถ่ายภาพตัวเองหรือที่เรียกกันว่าการเซลฟี่ กลายเป็นกระแสสังคมยอดฮิตของเหล่าผู้คนที่ติดโซเชี่ยลมักจะไม่พลาด
ไม่ว่าเวลาไหน เรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวัน ก็อยากถ่ายบอกเล่าให้กับเพื่อนฝูงในสังคมออนไลน์ได้รับรู้
โดยเฉพาะใครที่ติดการถ่ายภาพตัวเองมากๆ จนถูกเรียกให้กลายเป็นอาการติดเซลฟี่ที่ต้องรักษากันเลยทีเดียว
เราพบว่าไม่เพียงแค่นิสัยชอบถ่ายภาพตัวเองของสาวๆ ที่เป็นปัญหาต่อสุขภาพจิตเท่านั้น
แต่เรายังมีภาวะที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย การอักเสบของกล้ามเนื้อบริเวณข้อศอกที่หลายคนอาจจะไม่รู้มาก่อน
เรียกกันว่าอาการ “Selfie Elbow“ ผลกระทบโดยตรงจากนิสัยคุ้นชินจากโรคเซลฟี่
การยกมือถือถ่ายเป็นเวลานานๆ และบ่อยครั้ง จะทำให้เกิดอาการปวดที่บริเวณข้อศอก
สาวๆ ลองเช็คสุขภาพกายของตัวเองกันหรือยังคะว่า พฤติกรรมเซลฟี่ของตัวเอง กำลังทำลายคุณภาพชีวิตอยู่หรือเปล่า?
อะไรคือ Selfie Elbow ?
เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อโรคนี้เท่าใดนัก ซึ่งอาการที่พบจะเป็นอาการปวดบริเวณข้อศอก
เกิดขึ้นจากการบาดเจ็บของเส้นเอ็นที่เรียกว่า Ulnar collateral ligament หรือ UCL
และเส้นเอ็น Radial collateral ligament หรือ RCL รวมไปถึงส่วนของกล้ามเนื้อที่ช่วยให้ข้อศอกเกิดการพับและยืดตัวได้
การงอดขอศอกซ้ำๆ แบบไม่เป็นไปตามธรรมชาติ จากการยื่นโทรศัพท์ออกไปด้านหน้าเพื่อหามุมสำหรับถ่ายภาพตัวเอง
จะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการบิดตัว ตามมาด้วยอาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณแขนและข้อมือ
พฤติกรรมเช่นนี้จะไม่ส่งผลให้เห็นในระยะสั้น จึงทำให้ผู้คนมองข้ามกับอาการที่เกิดขึ้น
คิดเพียงว่าเป็นการอักเสบจากการเคลื่อนไหวร่างกายในท่าทางที่ผิดเท่านั้น
แต่จริงๆ แล้วมันส่งผลให้เกิดการเสื่อมสภาพของเส้นเอ็น ตามมาด้วยอาการปวดแบบเรื้อรัง
และการเคลื่อนไหวข้อศอกที่ไม่ได้ประสิทธิภาพดังเดิมอีกด้วย
อาการของผู้ป่วยที่มีภาวะ Selfie Elbow
อาการของภาวะนี้ จะเหมือนกับคนที่เล่นเทนนิสเป็นประจำ เพราะเป็นการบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่ข้อศอกเหมือนกัน
จะเห็นได้ว่าเพียงแค่นิสัยถ่ายเซลฟี่บ่อยๆ กลายเป็นอาการที่ใกล้เคียงกับคนที่ใช้แรงเล่นเทนนิสกันเลยทีเดียว
โดยอาการที่พบจะเริ่มจากการปวดที่ข้อศอกด้านนอกก่น อาจจะค่อยๆ ปวดขึ้นแบบช้าๆ หรือปวดแบบฉับพลันเลยก็ได้
อาการปวดจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นหากต้องเคลื่อนไหวแขนไปหยิบจับสิ่งของ กำ หรือเอี้ยวแขนไปข้างหลัง
การพับและยืดข้อศอก จะทำให้อาการปวดปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน ยิ่งหากเป็นการเขย่าแขนด้วยแล้ว
จะยิ่งทำให้อาการปวดรุนแรงมากขึ้นไปอีก ผู้ป่วยยังมีอาการไม่มีแรงเนื่องจากอาการปวดลุกลามมากขึ้น
จากที่มีตำแหน่งแค่ข้อศอก ก็เริ่มปวดขึ้นไปถึงข้อมือ จนทำให้การใช้ชีวิตประจำวันดูยากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการแปรงฟัน จับช้อนส้อม จับสิ่งของ หรือเล่นกีฬา
อาการ Selfie Elbow มีสาเหตุมาจากอะไร ?
อาการของ Selfie Elbow เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการถ่ายเซลฟี่นั่นเอง เนื่องจากการเคลื่อนไหวแขนเพื่อกดถ่ายโทรศัพท์
จะเป็นในท่าที่ไม่เหยียดแขนจนสุด เกร็งแขนให้ได้ตำแหน่งที่ต้องการเพื่อให้มองเห็นใบหน้าของตัวเองชัดๆ ได้มุมที่สวยสมใจ
การยืดแขนจะขึ้นอยู่กับฟังก์ชั่นกล้องของแต่ละโทรศัพท์มือถือว่าจะต้องยืดแขนในระดับไหน
ส่งผลให้เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อบริเวณข้อศอกทำงานหนัก อยู่ในท่าที่ไม่เหมาะสม ตามมาด้วยอาการปวด
และรุนแรงมากขึ้นได้หากยังไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าวให้น้อยลง แม้จะเป็นการใช้ไม้เซลฟี่เข้ามาช่วย
ก็ไม่ได้ทำให้อาการปวดลดน้อยลงแต่อย่างใด นอกจากการลดพฤติกรรมของตัวเองจึงจะเป็นการดีที่สุด
การรักษาและป้องกันอาการ Selfie Elbow
อาการ Selfie Elbow เป็นอาการที่หลายคนเข้าใจผิด คิดว่ามาจากการอักเสบ
แต่เกิดขึ้นจากการบิดตัวของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อจนทำให้เส้นประสาทถูกกดทับ
ดังนั้นการใช้น้ำแข็งประคบจึงไม่ช่วยทำให้อาการดีขึ้นแต่อย่างใด การรักษาคือการหยุดพฤติกรรมถ่ายเซลฟี่ก่อนชั่วคราว จนกว่าจะหายดี
พยายามอย่าหยิบจับสิ่งของบ่อยๆ อาจจะใช้ผ้าซัพพอร์ตพยุงแขนเอาไว้ไม่ให้เกิดการเคลื่อนไหวจนได้รับแรงกระทบกระเทือนมากเกินไป
Photo Credit : sumsel.tribunnews.com
หากมีอาการปวดสามารถใช้น้ำอุ่นประคบเพื่อบรรเทาอาการ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นให้ระบบเลือดไหลเวียนมากขึ้น
หากอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรรีบเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ร่วมด้วยจะดีที่สุด
อาการปวดอย่างหนักที่เทียบเท่าได้กับคนที่เล่นเทนนิส เป็นการเคลื่อนไหวแขนในท่าทางที่ผิด
ส่งผลให้เกิดอาการปวดที่กระทบต่อชีวิตประจำวัน สาวๆ ที่ไม่อยากเจอปัญหานี้
เพียงแค่รู้จักการถ่ายเซลฟี่แต่พองาม เลิกพฤติกรรมติดโซเชี่ยล ใช้เวลาไปกับการดูแลสุขภาพ ที่รับรองว่าช่วยให้ชีวิตดีขึ้นได้อย่างมากมายเลยทีเดียวค่ะ