เชื่อว่าสาวๆ ทุกคน ต้องเคยประสบกับอาการปวดศีรษะกันมาแล้ว อาจจะมากบ้างน้อยบ้าง
ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เป็นตัวกระตุ้น อาการเหล่านี้จัดได้ว่าเป็นความผิดปกติของระบบประสาทที่พบได้บ่อยมาก
แต่ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นก็มักจะมาจากสาเหตุที่ไม่รุนแรง เมื่อพักผ่อนให้เพียงพอ ก็สามารถหายไปได้เอง
ซึ่งบางรายที่มีอาการปวดมาก ก็อาจจะใช้ยาแก้ปวดธรรมดามาช่วยบรรเทาอาการ
ทว่าในบางครั้งการตัดสินใจซื้อยาทานด้วยตัวเอง อาจจะทำให้ยาเข้าไปกดอาการ กว่าจะรู้ตัวอีกที
ก็เกิดอาการรุนแรงตามมาแล้ว หากการรักษาไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่ามีต้นตอมาจากอะไร
อีกทั้งมีอาการปวดผิดปกติ เสียวแปล๊บบริเวณใบหน้าร่วมด้วย คลับคล้ายว่าจะเป็นอาการปวดฟัน
เป็นๆ หายๆ หรือปวดรุนแรงจนทนไม่ไหว ตรวจยังไงก็ไม่พบความผิดปกติ ให้สาวๆ ลองสันนิษฐานตัวเองกันเอาไว้ก่อน
ว่า อาจจะมีจาก “โรคปวดเส้นประสาทใบหน้า” (Trigeminal neuralgia) ที่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อโรคนี้กันเท่าใดนัก
ใบหน้ามีเส้นประสาทในลักษณะไหน ?
หากจะพูดเจาะจงไปที่เส้นประสาทบนใบหน้าเพียงอย่างเดียว นั่นจะหมายถึง เส้นประสาทที่เชื่อมกับสมองคู่ที่ 5
จากทั้งหมด 12 คู่ โดยเส้นประสาทตัวนี้จะมีหน้าที่นำความรู้สึกมายังผิวหน้า มีต้นกำเนิดของเส้นประสาท
อยู่ที่ก้านสมอง อาการปวดที่เกิดร่วมกับใบหน้าแบบไม่ทราบสาเหตุ หรือตรวจพบก็ไม่มีความผิดปกติใดๆ
โรคปวดประสาทใบหน้าอาจจะเป็นต้นตอของปัญหา อีกทั้งเป็นโรคที่พบได้บ่อย ตั้งแต่ช่วงวัยกลางคนไปจนถึงสูงอายุ
พบได้ในคนที่มีสุขภาพร่างกายปกติทั่วไป จะมีอาการปวดที่เฉพาะเจาะจง แตกต่างจากการปวดศีรษะอื่นๆ
อาการของโรคที่พบ
อาการของโรคปวดเส้นประสาทใบหน้า มักจะเกิดอาการปวดขึ้นบริเวณด้านใดด้านหนึ่งของใบหน้า
จะไม่เกิดขึ้นพร้อมๆ กันทั้งสองด้าน แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าข้างซ้ายหรือขวามีเท่าๆ กัน
ลักษณะอาการปวดที่พบได้บ่อย จะปวดบริเวณแก้ม กระพุ้งแก้ม ฟันด้านใดด้านหนึ่ง และเหงือก
จนทำให้คิดว่าเป็นอาการปวดอันเนื่องมาจากฟันผุ อีกทั้งอาการปวดมีความรุนแรง จะเกิดขึ้นได้อย่างฉับพลัน
โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า อาการปวดจะปวดแปล๊บเหมือนโดนเข็มทิ่ม ปวดจนสะดุ้งเหมือนไฟช็อต
บางรายอาจปวดแสบปวดร้อนที่ผิวหน้าและเหงือกร่วมด้วย ด้วยความเข้าใจผิดส่วนใหญ่ที่คิดว่าเป็นอาการปวดจากฟัน
ทำให้ผู้ป่วยเลือกที่จะเข้ารับการตรวจจากทันตแพทย์ก่อน หากโชคร้ายว่าอาการปวดที่เกิดขึ้นนั้น
ไม่ใช่มาจากฟันผุหรือปัญหาโรคเหงือก ฟันหลายซี่อาจจะโดนถอนออกไป แต่อาการปวดดังกล่าวก็ยังคงอยู่
สาเหตุของการเกิดโรคปวดเส้นประสาทบนใบหน้า
อาการปวดที่เกิดขึ้น แพทย์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่าเกิดขึ้นจากอะไร แต่พบได้บ่อยในกลุ่มของผู้สูงอายุ
บางรายมาจากการกดทับของเส้นประสาท หรือบริเวณปมประสาทในส่วนของ posterior fossa
สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งเส้นประสาทส่วนปลาย หรือเส้นประสาทส่วนกลาง และเนื่องจากเส้นประสาทคู่ที่ 5
มีต้นกำเนิดจากก้านสมอง ในผู้ป่วยที่มีภาวะทางสมอง เช่น โรคก้านสมองขาดเลือด
หรือโรคสมองในกลุ่ม multiple sclerosis จะทำให้อาการปวดเกิดขึ้นได้บ่อย ทำให้เส้นประสาทคู่ที่ 5 เกิดความผิดปกติ
เมื่อมันเกิดการถูกสัมผัสทำให้เส้นประสาทไวต่อความรู้สึก และด้วยตำแหน่งของเส้นประสาทที่ใกล้กับเส้นเลือด
ทำให้อาการเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน การเข้ารับการตรวจที่ดีจึงควรพบแพทย์ที่เป็น “หมออายุรศาสตร์เส้นประสาท” โดยตรง จึงจะช่วยรักษาอาการนี้ให้หายได้
ขั้นตอนการรักษา
หากพบว่าผู้ป่วยมีอาการปวดใบหน้าอันเนื่องมาจากความผิดปกติของเส้นประสาทคู่ที่ 5 จริงๆ
แพทย์จะทำการรักษาด้วยการเลือกใช้ยาคาร์บามาซีปีน (Carbamazepine) ช่วยทำให้อาการปวดที่เป็นๆ หายๆ ทุเลาลง
จนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ บางรายไม่มีการตอบสนองต่อยา จำเป็นต้องเพิ่มขนาดหรือใช้ยาอื่นๆ มารักษาร่วมด้วย
อย่างไรก็ตามยาที่นำมาใช้จะเป็นเพียงตัวช่วยระงับอาการปวดเท่านั้น เนื่องจากเกิดขึ้นกับเส้นประสาท
จึงไม่สามารถเข้าแก้ไขที่สาเหตุโดยตรงได้ เมื่อหยุดยา อาจกลับมาเป็นซ้ำได้อีก การรักษาจึงจะเริ่มด้วยการให้ยาโดสต่ำๆ ก่อนแบบสม่ำเสมอ
เพื่อดูการตอบสนองของผู้ป่วยและอาการแพ้ยา หากอาการดีขึ้น แพทย์จะค่อยๆ ลดปริมาณยาลง
จนพบว่าไม่มีอาการเกิดขึ้นอีก ก็จะให้หยุดยา จนกว่าอาการจะเกิดขึ้นซ้ำ ผู้ป่วยจะต้องกลับมารับการรักษา
โดยเริ่มด้วยวิธีการให้ยาใหม่ ตามความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้น ซึ่งจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด
บางรายที่ไม่มีการตอบสนองต่อยาเลย จะใช้วิธีการผ่าตัดเป็นทางเลือกสุดท้าย
สาวๆ ที่พบว่าตัวเองมีอาการปวดบริเวณใบหน้า ตรวจสภาพฟันภายในช่องปากแล้วไม่มีความผิดปกติ
Photo Credit : newbridgespine.com
อาการของโรคเกิดขึ้นแบบเป็นๆ หายๆ และปวดอย่างรุนแรงแบบฉับพลัน ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์
เพราะอาการปวดที่หาสาเหตุไม่ได้ มีโอกาสเกิดขึ้นจากโรคปวดเส้นประสาทใบหน้า แม้จะไม่อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต
แต่ก็ทำลายคุณภาพชีวิตในแต่ละวันของเราให้แย่ลงได้อย่างมากเลยทีเดียวค่ะ