เคยรู้สึกกันไหมคะว่า อยู่ดีๆ ก็เกิดอาการเวียนหัวโดยไม่ทราบสาเหตุ อาการหนักจนเหมือนทุกอย่างรอบตัวหมุนได้
ทำให้ไม่สามารถยืนทรงตัวอยู่นิ่งๆ รู้สึกอยากอาเจียน พอได้นอนพักอาการเหล่านี้ก็หายไป
ซึ่งเรามักเรียกอาการในลักษณะนี้ว่า “โรคบ้านหมุน” โดยทั่วไปไม่ใช่อาการที่ร้ายแรง เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ
แต่ก็สามารถเป็นสัญญาณเตือนของโรคที่มีความรุนแรงได้เช่นกัน ดังนั้นหากสาวๆ รู้ตัวว่ามีอาการบ้านหมุนเกิดขึ้นกับตัวเองบ่อยๆ
ทางที่ดี อย่ารอช้า รีบเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อจะได้รักษาได้ทัน หากสาเหตุเกิดขึ้นจากโรคร้ายแรงค่ะ
อาการโดยทั่วไปของโรคบ้านหมุน
โรคบ้านหมุน (vertigo) เป็นโรคที่พบได้บ่อย ซึ่งอาการเบื้องต้นที่พบจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเวียนศีรษะ
เคลื่อนไหวไม่เป็นปกติ รู้สึกเหมือนกับตัวเองกำลังโคลงเคลงอยู่บนเรือที่มีพายุ แต่จริงๆ แล้วไม่มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเลย
เมื่อมองไปข้างหน้า จะรู้สึกว่าสิ่งรอบๆ ตัวกำลังหมุนได้ เกิดขึ้นจากความผิดพลาดในการรับข้อมูล
ส่งผลให้ระบบประสาทเสียสมดุล การทรงตัวของร่างกายแม้จะอยู่เฉยๆ แต่กลับรู้สึกเหมือนจะล้มลงไป โดยจะมีความเกี่ยวเนื่องกับประสาทการรับข้อมูลจากดวงตา ข้อต่อ อวัยวะควบคุมการทรงตัวที่หูชั้นใน
ระบบประสาทส่วนกลางตรงฐานสมอง และสมองทั้งหมด ซึ่งจะมีความสัมพันธ์กัน โดยเฉพาะอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการได้ยิน
จะอยู่ใกล้กับหูและสมอง ดังนั้นผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคบ้านหมุน มักจะมีอาการที่เกี่ยวข้องกับความผิกดปกติของการได้ยิน
เช่น หูอื้อ มีเสียงรบกวนในหูตลอดเวลา หรือบางรายอาจเกี่ยวข้องกับอาการ nystagmus
หรือตากระตุก ทำให้เดินเซ ล้ม คลื่นไส้ อาเจียน รู้สึกหวาดกลัว เหงื่อออกแม้จะอยู่ในอากาศเย็น
สาเหตุของการเกิดโรค
อาการเวียนศีรษะจนรู้สึกหมุน หรือที่เรียกกันว่าบ้านหมุน เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างเฉียบพลัน
ผู้ป่วยไม่ทันได้ตั้งตัว ผู้ป่วยจะมองเห็นสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุนเปลี่ยนไปจากเดิม แต่ในความเป็นจริงแล้ว
ทุกอย่างไม่ได้มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น เป็นโรคที่มามีต้นตอมาจากหลายสาเหตุ ที่พบได้บ่อยคือ
โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อนหรือโรคเวียนศีรษะขณะเปลี่ยนท่า (benign paroxysmal positional vertigo หรือ BPPV),
โรคเวียนศีรษะจากน้ำในหูผิดปกติหรือไม่เท่ากัน (Meniere’s disease), การอักเสบของเยื่อใบหูชั้นใน,
โรคเส้นประสาทการทรงตัวในหูอักเสบ, กระดูกกะโหลกเกิดการแตกหัก, เนื้องอกของเส้นประสาทในการทรงตัวหรือการได้ยิน และภาวะที่เลือดเข้าไปเลี้ยงสมองไม่พอ เป็นต้น
ด้วยสาเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้มากมาย อาการเวียนศีรษะบ้านหมุนจึงเกิดขึ้นได้จากความผิดปกติที่ซับซ้อน
แพทย์จึงจำเป็นต้องวินิจฉัยโรคอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงให้ได้ การรักษาอย่างตรงจุด
จะช่วยลดความรุนแรง ให้การรักษาในระยะแรกได้ผล กลับมาหายเป็นปกติโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนอื่นใด
การรักษาและป้องกัน
หากสาวๆ รู้สึกว่าตัวเองมีอาการเวียนศีรษะชนิดที่ไม่ปกติ ควรรีบเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์โดยด่วน
แม้จะรู้สึกว่าอาการที่เกิดขึ้นไม่รุนแรง แต่นั่นสามารถเป็นสัญญาณที่ร่างกายกำลังเตือนเราถึงความผิดปกติอันเกี่ยวเนื่องกับระบบสมองได้
ในขั้นตอนการรักษา แพทย์จะทำการซักประวัติอย่างละเอียด ร่วมกับการตรวจร่างกาย โดยเฉพาะการตรวจหูชั้นใน
ระบบประสาทการทรงตัว อวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการทรงตัว การกลอกลูกตา ตรวจการได้ยิน วัดแรงดันน้ำในหูชั้นใน เป็นต้น
จึงทำให้การรักษาแตกต่างกันออกไปตามความผิดปกติที่พบได้เป็นรายบุคคล ส่วนการดูแลตนเองของผู้ป่วยนั้น
พยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้จะมีผลต่อการรักษาโรคเป็นอย่างมาก
ซึ่งควรหลีกเลี่ยงอิริยาบถที่มีการเคลื่อนไหวศีรษะมาก เช่น การลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว การก้มเงยคอ เป็นต้น
ลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ชาและกาแฟ รวมไปถึงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในปริมาณมาก
พยายามทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ไม่เครียด หลีกเลี่ยงความวิตกกังวล อยู่ในสถานที่ๆ มีอาการถ่ายเทสะดวก
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และในระหว่างวัน ควรฝึกลมหายใจให้เป็นสมาธิด้วย จะช่วยบรรเทาอาการบ้านหมุนให้ดีขึ้นได้
Photo Credit : boutwellchiropractic.com
สาวๆ ที่มีอาการดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยและเฉียบพลัน ต้องหลีกเลี่ยงตัวเองไม่ให้อยู่ในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
และรีบเข้ารับการตรวจรักษาจากแพทย์ การปล่อยทิ้งไว้นาน อาจทำให้อาการรุนแรง จนตามมาด้วยเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเอาได้ค่ะ