ภาวะซีด ภัยใกล้ตัวผู้สูงอายุ เพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุไม่รู้ตัว

ภาวะซีดในผู้สูงอายุ

ภาวะซีด มักเป็นภาวะที่จะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ แต่สิ่งสำคัญที่ควรจะรู้คือ เมื่อผู้สูงอายุมีอายุมากขึ้น ภาวะซีดก็จะมีอาการที่หนักไปกว่าเดิม

ดังนั้น จึงไม่ควรปล่อยนิ่งนอนใจ เราควรทำความรู้จักกับ ภาวะซีดในผู้สูงอายุ ให้มากขึ้น เพื่อรับมือป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายที่อาจจะตามมาได้

ภาวะซีด คืออะไร?

ภาวะซีด (anemia) หรือ โรคโลหิตจาง คือ ภาวะที่ภายในร่างกายมีปริมาณเม็ดเลือดแดงในเลือดต่ำกว่าปกติ

จึงไม่สามารถทำให้การขนถ่ายออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อได้เพียงพอต่อความต้องการ 

สำหรับการกำหนดว่าเป็นภาวะซีดนั้นในผู้ชายกับผู้หญิงจะมีระดับที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • เพศชาย น้อยกว่า 13 g/dl
  • เพศหญิง น้อยกว่า 12 g/dl

สาเหตุของภาวะซีด

ภาวะซีดในผู้สูงอายุ สามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ แต่ส่วนใหญ่แล้วล้วนมีความเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่ทำอยู่ในชีวิตประจำวันเป็นตัวส่งผล โดยสาเหตุสามารถอธิบายได้ ดังนี้

ภาวะซีดจากการขาดสารอาหาร

การขาดสารอาหารกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้สูงอายุส่วนใหญ่ เพราะอายุที่มากขึ้นจึงเป็นปัจจัยที่ส่งผลทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหาร

จนทำให้เกิดภาวะซีดตามมา โดยสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อร่างกายและลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะซีดได้นั้นก็คือ

  • ธาตุเหล็ก
  • วิตามินบี 12
  • โฟเลต

แต่ข้อควรรู้ที่สำคัญคือ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักจะขาดวิตามินบี 12 และโฟเลตมากกว่าธาตุเหล็ก เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจในสารอาหารทั้ง 2 ชนิดดังที่กล่าวมา

เพราะคิดว่าไม่มีความจำเป็นเท่ากับธาตุเหล็ก แต่สำหรับสารอาหารทั้ง 2 ชนิดไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี 12 หรือโฟเลตก็ตาม

ล้วนเป็นสารอาหารที่จะช่วยกระตุ้นร่างกายให้สามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีทั้งสิ้น ดังนั้นเมื่อผู้สูงอายุรู้ว่าเป็นภาวะซีด

จึงควรพยายามปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารเพื่อเสริมธาตุเหล็ก แต่หากขาดสารอาหารทั้ง 2 ชนิดดังกล่าว

ก็จะทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้เท่าที่ต้องการ

โดยความผิดปกติที่เกิดขึ้นนี้ จะทำให้ผู้สูงอายุเกิดภาวะขาดสารอาหารจนส่งผลต่อการเกิดภาวะซีดตามมา คือ

ระบบทางเดินอาหาร : เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายก็เริ่มเสื่อมสภาพ ทำให้ระบบภายในร่างกายไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่ากับสมัยวัยรุ่น

จึงทำให้ระบบย่อยอาหารไม่สามารถที่จะย่อยอาหารได้ดีดังเดิม และไม่สามารถดูดซึมสารอาหารที่อยู่ภายในอาหารเหล่านั้นได้

ระบบรับรู้รสชาติ : เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยที่อายุมากขึ้น ระบบรับรู้รสชาติสำหรับผู้สูงอายุก็จะเสื่อมสภาพไปตามอายุได้เช่นเดียวกัน

เพราะฉะนั้นเมื่ออายุมากขึ้นการรับรู้รสชาติของอาหารก็จะน้อยลงส่งผลทำให้รู้สึกทานอาหารไม่อร่อยและไม่ต้องการที่จะทานอาหารอีก

ระบบช่องปาก : ปัญหาทั่วไปสำหรับผู้สูงอายุหลายคน ก็คือปัญหาจากระบบช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากเหงือก ฟัน ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการเคี้ยวและกลืน จึงทำให้ผู้สูงอายุทานอาหารได้น้อย

ผู้จัดเตรียมอาหาร : เป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้สำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากการจัดเตรียมอาหารให้กับผู้สูงอายุนั้น

บางคนอาจจะไม่ได้เรียนรู้ในเรื่องของโภชนาการ จึงทำให้ไม่ได้เลือกสรรอาหารให้เหมาะสมกับโภชนาการ

ตามที่ร่างกายของผู้สูงอายุต้องการ ส่งผลทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหาร รวมถึงขาดวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย

ภาวะซีดจากความผิดปกติและอาการอักเสบ

สำหรับสาเหตุนี้เป็นสาเหตุที่มีความเกี่ยวข้องกับความผิดปกติในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง โดยเฉพาะที่บริเวณไขกระดูกซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง

ซึ่งอาจจะมีผลกระทบมาจากการใช้ยา อย่างเช่น ยารักษามะเร็ง จึงทำให้ไขกระดูกไม่สามารถผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงได้

นอกจากนี้แล้วเมื่อเกิดอาการอักเสบเรื้อรัง ร่างกายจะมีการผลิตไซโตไคน์ในขณะที่เกิดการอักเสบ

และไซโตไคน์ถือเป็นสารที่ทำให้ฮอร์โมนอิริโทรโพอิติน (erythropoietin) สลายตัวได้อย่างรวดเร็ว

ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้จะช่วยในเรื่องของการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ดังนั้น ถ้าหากฮอร์โมนชนิดนี้สลายตัวไปเร็ว ก็จะทำให้เกิดภาวะซีดได้ง่าย

ภาวะซีดจากความเสื่อมตามอายุ

อย่างที่ทราบกันดีว่าเมื่ออายุมากขึ้น ระบบต่างๆ ภายในร่างกายก็จะสามารถเสื่อมสภาพลงได้อย่างรวดเร็ว แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญเลยก็คือ เซลล์ไขกระดูก

ที่อาจจะมีรูปแบบการทำงานที่เสื่อมสภาพลงจนทำให้ไม่สามารถที่จะผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงได้ตามที่ร่างกายต้องการ

อาการของภาวะซีด

สำหรับภาวะซีดสามารถที่จะแสดงอาการให้เห็นได้อย่างชัดเจนสำหรับผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นภาวะนี้ อาการที่แสดงออกมีดังนี้

  • เหนื่อยง่าย
  • อ่อนเพลีย
  • หน้ามืด
  • เวียนหัว
  • เบื่ออาหาร

อาการดังกล่าวล้วนแล้วแต่เป็นอาการเบื้องต้นที่สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้สูงอายุ และผลกระทบจากอาการเหล่านี้สามารถทำให้ผู้สูงอายุล้ม หรือตกลงมาจากบันไดได้

การวินิจฉัยภาวะซีด

ภาวะซีดในผู้สูงอายุแพทย์จะทำการวินิจฉัยภาวะอย่างละเอียด ซึ่งนอกเหนือไปจากการสอบถามประวัติของผู้สูงอายุแล้ว ก็จะมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการร่วมด้วย เช่น

  • การตรวจเลือด
  • การตรวจระดับวิตามินบี 12 และโฟเลต
  • การตรวจตับ
  • การตรวจปัสสาวะ

วิธีรักษาภาวะซีดในผู้สูงอายุ

การรักษาภาวะซีดในผู้สูงอายุไม่สามารถระบุวิธีรักษาได้แบบตายตัว เนื่องจากผู้สูงอายุแต่ละรายอาจจะมีสาเหตุหรือรูปแบบที่ทำให้เกิดภาวะซีดที่แตกต่างกันไป

ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องรักษาไปตามสาเหตุที่เกิดขึ้น แต่ส่วนใหญ่แล้วพื้นฐานการรักษาภาวะซีด จะแบ่งวิธีรักษาหลักๆ ได้ 2 วิธีคือ

1.ปรับพฤติกรรมการทานอาหาร

เรื่องของการรับประทานอาหารถือเป็นเรื่องง่ายที่จะต้องใส่ใจคือ ผู้ป่วยพยายามทานอาหารที่มีสารอาหารตรงตามความต้องการของร่างกาย

โดยเน้นในส่วนของธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 กรดโฟลิก ซึ่งก็จะหาได้จากอาหารโดยทั่วไป เช่น อาหารทะเล ผักใบเขียว ผลไม้รสเปรี้ยว

2.รักษาจากทางการแพทย์

เนื่องจากแพทย์อาจจะมีคำแนะนำด้านการรักษาแบบทางเลือกให้กับผู้ที่ป่วยเป็นภาวะซีดพร้อมกัน เช่น

  • การฉีดฮอร์โมน erythropoietin เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงได้
  • การทำคีเลชั่นบำบัด เพื่อกำจัดธาตุเหล็กที่เป็นส่วนเกินออกจากร่างกาย

วิธีป้องกันภาวะซีดในผู้สูงอายุ

สำหรับการป้องกันภาวะซีดในผู้สูงอายุ สามารถที่จะเริ่มต้นได้จากคนในบ้านช่วยกันดูแล

โดยเฉพาะในเรื่องของการรับประทานอาหารที่เป็นปัจจัยสำคัญในการส่งผลทำให้เกิดภาวะซีด โดยมีวิธีดูแลดังนี้

1.ปรุงแต่งเมนูอาหารให้มีสารอาหารครบถ้วน ผู้ทำอาหารควรจัดแจงแต่ละมื้ออาหารให้มีสารอาหารที่หลากหลาย

โดยจะเน้นในส่วนของธาตุเหล็กรวมถึงโฟเลต และควรที่จะเปลี่ยนรูปแบบอาหารเพื่อให้น่าสนใจสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อกระตุ้นให้เกิดความอยากรับประทานอาหารมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

2.ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ถ้าหากผู้สูงอายุไม่สามารถที่จะทานอาหารได้ตามปกติ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการสะสมสารอาหารมากเกินไปในร่างกาย

3.เปลี่ยนบรรยากาศ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักมีปัญหาภาวะซีดจากการขาดสารอาหาร เพราะเบื่ออาหารหรืออาจจะเบื่อบรรยากาศ

ดังนั้นอาจจะลองแนะนำให้ผู้สูงอายุไปทานอาหารร่วมกับเพื่อนหรือเปลี่ยนสถานที่ในการรับประทานอาหาร

4.หมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะซีดควรที่จะต้องตรวจสุขภาพทุกปี

Credit : mmforkids.org

จากข้อมูลที่เราชี้แจงไปดังกล่าว เพื่อเป็นการ ดูแลผู้สูงอายุ ภายในบ้านให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

การศึกษาเกี่ยวกับ ภาวะซีดในผู้สูงอายุ ย่อมช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเหล่านี้ได้ง่าย

เนื่องจากผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักเกิดอุบัติเหตุและมีปัญหาสุขภาพด้านอื่นๆ ตามมาจากภาวะซีดอย่างเช่นการหน้ามืดและล้มง่าย

หากผู้ดูแลได้ศึกษาและทำการแก้ไขรับมือในปัญหานี้เป็นอย่างดีแล้ว ความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายแก่คนที่คุณรักย่อมลดน้อยลงอย่างแน่นอน