เพราะสุขภาพดวงตาเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจดูแล หากดวงตาเกิดปัญหาหรือมีอาการผิดปกติขึ้นแล้ว
ย่อมส่งผลกระทบทำให้การมองเห็นแย่ลงได้อย่างแน่นอน และหนึ่งในนั้น เบาหวานขึ้นตา ก็นับเป็นอีกโรคหนึ่ง
ที่เกิดขึ้นจากผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน และผู้ป่วยเบาหวานในปัจจุบันก็มีค่อนข้างมากทีเดียว เมื่อป่วยเป็น โรคเบาหวาน แล้ว
ใช่แต่เพียงว่ามันจะไม่แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ให้แย่ลง เพราะมันยังเล่นงานมาถึงดวงตาของเราได้ด้วย
โดยเฉพาะการเป็นเบาหวานในผู้สูงอายุ มักจะประสบกับปัญหาเบาหวานขึ้นตาด้วยกันบ่อยๆ
วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักเบาหวานขึ้นตากัน โรคนี้เป็นอย่างไร รักษาให้หายได้หรือไม่ รีบไปติดตามพร้อมๆ กันเลยค่ะ
ทำความรู้จัก “เบาหวานขึ้นตา”
เบาหวานขึ้นตา หรือ เบาหวานขึ้นจอประสาทตา (Diabetic Retinopathy) เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมที่เกิดจากเบาหวาน
ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของจอรับภาพ retina ส่งผลให้หลอดเลือดบนจอภาพเกิดความเสียหาย
หากมีอาการรุนแรงมาก จะส่งผลต่อการมองเห็น นับเป็นโรคอันตรายอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามทีเดียว
ดังนั้นรีบไปทำความรู้จักกับโรคนี้ พร้อมวิธีการดูแลตัวเอง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคด้วยรายละเอียดที่น่ารู้ดังนี้ได้เลย
เบาหวานขึ้นตาเกิดจากอะไร?
สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานมาเป็นระยะเวลานานมักจะเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้หลอดเลือดขนาดเล็กพิการ
ส่งผลทำให้ผนังหลอดเลือดบางขาดความแข็งแรง จึงทำให้เกิดอาการดังต่อไปนี้
- ผนังหลอดเลือดบางส่วนโป่งออกมา
- มีการรั่วไหลของน้ำออกจากผนังหลอดเลือด
- อาจทำให้มีเลือดออกที่จอรับภาพ
- เส้นเลือดบางส่วนเกิดการตีบตัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงจอรับภาพไม่พอ
- มีการงอกของเส้นเลือดใหม่ เพื่อไปเลี้ยงส่วนที่ขาดเลือด แต่เส้นเลือดที่งอกใหม่กลับขาดความแข็งแรง ทำให้เกิดการเปราะแตกได้ง่าย จึงเป็นสาเหตุทำให้ตาบอดได้
อาการของเบาหวานขึ้นตา
เบาหวานขึ้นตา นับว่าเป็นโรคเรื้อรัง โดยทั่วไปแล้วจะไม่มีอาการใด ๆ แต่จะค่อย ๆ เกิดความผิดปกติทีละเล็กทีละน้อย
ผู้ป่วยจำนวนมากไม่แสดงอาการใด ๆ ในระยะแรก แต่สามารถตรวจตาอย่างละเอียดได้โดยจักษุแพทย์เท่านั้น
หากอาการของโรครุนแรงเกิดขึ้น จะทำให้ตามัวลง อาการอาจเกิดแบบค่อยเป็นค่อยไป
หรือเกิดอาการตามัวได้ในทันที โดยจะมีอาการเริ่มต้นดังต่อไปนี้
- ตามองไม่เห็น
- เห็นเศษชิ้นส่วนลอยอยู่ในตา
- มีปัญหาในการมองเห็น ในช่วงเวลาตอนกลางคืน
- แยกสีไม่ชัดเจน
ตามัวที่เกิดจากเส้นเลือดผิดปกติแบ่งได้เป็น 4 กรณี
กรณีแรก เกิดจากการเสื่อมตัวของสารน้ำหรือไขมัน โดยปกติแล้วจะอยู่ในหลอดเลือด จะรั่วออกมาในเนื้อเยื่อจอประสาทตา
จนทำให้มีมีอาการบวม หากอาการบวมเกิดขึ้นบริเวณตรงกลางจอประสาทตา หรือในจุดรับภาพ จะทำให้มองเห็นภาพไม่ชัด
กรณีที่สอง เกิดจากเส้นเลือดเล็ก ๆ เกิดการเสื่อมตัว อาจจะมีการอุดตัน จนทำให้จอประสาทตาพิการขาดเลือด ตาเกิดการอักเสบ
เพราะเกิดการตายของเนื้อเยื่อ ส่งผลทำให้เนื้อเยื่อบวมและมีการงอกของเส้นเลือดที่ผิดปกติมาชดเชย และทำให้การมองเห็นลดลง
กรณีที่สาม เส้นเลือดที่เสื่อมตัวอาจเกิดการแตก มีเลือดไหลออกมาอยู่ในเนื้อเยื่อลูกตา มีเลือดออก
ถ้าหากมีปริมาณน้อย จะไม่ก่อไม่มีอาการผิดปกติ แต่หากมีปริมาณมาก จะทำให้การมองเห็นลดลงทันที
กรณีสุดท้าย เมื่อจอประสาทตาเกิดการเสื่อมตัวจากเบาหวานมากขึ้น เนื้อเยื่อจอประสาทตาจะเกิดพังผืดแผลเป็น
โดยพังผืดเหล่านี้จะดึงรั้งจอประสาทตา ทำให้เกิดภาวะจอประสาทตาลอก ส่งผลทำให้จอประสาทตาเกิดการฉีดขาดได้
สำหรับกรณีนี้จะต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นานแล้วไม่ได้รับการรักษา จะทำให้สูญเสียการมองเห็นได้อย่างถาวร
วิธีรักษาเบาหวานขึ้นตา
สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ไม่ว่าจะมีความผิดปกติหรือไม่มีความผิดปกติของจอประสาทตาก็ตาม ก็จำเป็นต้องดูแลตัวเอง
ด้วยการควบคุมระดับน้ำตาลในเส้นเลือด โดยจะต้องควบคุมระดับไขมันในเส้นเลือด รวมถึงความดันโลหิตด้วย
เพื่อป้องกันไม่ให้โรคเบาหวานขึ้นตาเกิดการลุกลาม นอกจากนี้ อาการเบาหวานขึ้นตาระยะแรก โดยในระยะนี้ยังไม่จำเป็นต้องทำการรักษา
แต่ผู้ป่วยจะต้องหมั่นมาตรวจตามนัด ถ้าหากพบความผิดปกติ แพทย์จะพิจารณาทำการรักษาต่อไป
หากพบว่ามีเลือดออก มีพังผืดดึงรั้งหรือมีจอประสาทตาลอกก็จะสามารถทำการผ่าตัดรักษาได้อย่างทันที
ผลจากการรักษา
การรักษาโดยการใช้เลเซอร์หรือการผ่าตัด จะสามารถทำได้เมื่อจอประสาทตาเกิดความผิดปกติมานานแล้ว
จนมีความเสียหายเกิดขึ้น ดังนั้นผลการรักษาจึงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระยะเวลาที่ป่วยเป็นเบาหวาน
การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดผู้ป่วย ความผิดปกติของตาก่อนการรักษาเป็นมากแค่ไหน การรักษาเบาหวานขึ้นตา
ทำได้เพียงแค่ชะลอไม่ให้อาการมองเห็นแย่ลง แต่ไม่สามารถทำให้ดวงตากลับมาเป็นปกติเหมือนก่อนเกิดโรค
ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
Credit : zenithbyogoptician.wordpress.com
เบาหวานขึ้นตา เป็นโรคอันตรายอย่างหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นกับดวงตา เป็นแล้วจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
ทำได้เพียงแค่ชะลอไม่ให้อาการมองเห็นแย่ลง เพราะการรักษาจะทำได้ก็ต่อเมื่อดวงตาเกิดความผิดปกติแล้วเท่านั้น
การดูแลป้องกันตัวเอง ด้วยการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ จึงเป็นการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ได้