อยากกินของหวาน แต่สำหรับสาวๆ ที่กลัวอ้วน ก็แอบหวั่นกับปริมาณน้ำตาลที่เป็นส่วนผสมในปริมาณมากกว่าปกติ
แน่นอนว่าทำให้เมนูนั้นๆ กลายเป็นเมนูแคลอรี่สูง ยิ่งกินเยอะยิ่งทำให้อ้วน
เมื่อขึ้นชื่อว่า “น้ำตาล” จึงกลายเป็นตัวการที่คนรักสุขภาพแทบไม่อยากแตะต้อง แม้โหยหามันอยู่บ่อยๆ จนรู้สึกหงุดหงิด
เพราะแคลอรี่ที่มาพร้อมความอ้วน แต่ในความเป็นจริงเราสามารถจะมีความสุขกับการกินของหวานอร่อยๆ ได้อย่างไรกังวล ไม่ต้องกลัวน้ำตาลกันอีกต่อไป
ด้วยความเข้าใจเกี่ยวกับบริโภคน้ำตาลให้เหมาะสม เลือกปริมาณในการกินตามวัย
ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายได้รับในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของแต่ละคน แน่นอนว่าเด็กกับผู้ใหญ่
ปริมาณน้ำตาลที่ควรได้รับจะแตกต่างกัน ใครที่หลงใหลกับความหวาน
หากรู้หลักการกินให้ถูกวิธีก็อร่อยฟินกับเมนูของหวานได้แบบไม่ต้องกังวลกันแล้วล่ะค่ะ
ปริมาณน้ำตาล เลือกกินให้สัมพันธ์ตาม “วัย”
หากเป็นสาวๆ ที่ยังอยู่ในวัยทำงาน รวมไปถึงเด็กและผู้สูงอายุ ปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวันควรไม่เกิน 130 กิโลแคลอรี
ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารหลากหลาย ครบตามหลักโภชนาการ
โดยพลังงานรวมเท่ากับ 1,600 กิโลแคลอรี น้ำตาลต่อวันคร่าวๆ ที่่กะไว้จึงอยู่ที่ 8 ช้อนชา ไม่เกินไปกว่านี้
วัยรุ่นสาวๆ เป็นช่วงที่ร่างกายยังมีระบบเผาผลาญพลังงานได้ดีอยู่ สามารถอัพระดับพลังงานให้มากขึ้นอยู่ที่ 200 กิโลแคลอรี หรือประมาณ 10 ช้อนชา
ส่วนในกรณีที่เป็นสาวแอคทีฟ ชอบการออกกำลังกาย เป็นนักกีฬา หรือใช้เวลาในแต่ละวันไปกับการทำกิจกรรมเคลื่อนไหวเผาผลาญพลังงานร่างกาย สามารถรับพลังงานจากน้ำตาลได้อยู่ที่ 240 กิแคลอรี หรือประมาณ 12 ช้อนชา
กลุ่มคนเหล่านี้จะต้องการพลังงานรวมในแต่ละวันสูงมากกว่าคนที่ทำงานออฟฟิศทั่วไปอยู่ที่ 2,400 กิโลแคลอรี
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “น้ำตาล” และปริมาณพลังงานที่ได้รับ
หากเป็นสาวๆ ที่ห่วงสุขภาพ แน่นอนว่าต้องพอรู้บ้างว่าพลังงานจากน้ำตาลสามารถกลายสภาพไปเป็นไขมันได้เหมือนกัน
ทำให้เกิดความเข้าใจว่า ไม่ว่าจะกินน้ำตาลหรือไขมัน ก็จะทำให้อ้วน ! อย่างแน่นอน
ทำให้คนที่อยากมีหุ่นสวยๆ เหมือนที่ตั้งใจไว้ หลีกเลี่ยงการกินน้ำตาลและไขมันชนิดที่ว่าไม่ยอมแตะอีกเลย
ตามความเป็นจริง พลังงานที่จะเป็นตัวกำหนดว่าเป็นตัวการทำให้อ้วนหรือไม่นั้น…ไม่ได้ขึ้นอยู่กับน้ำตาลและไขมันเพียงอย่างเดียว
แต่จะสัมพันธ์กันกับ แคลอรีรวมที่ร่างกายรับเข้าไป กับพลังงานที่ถูกใช้ โดยพลังงานที่ถูกเผาผลาญออกไปควรน้อยกว่าพลังงานที่ร่างกายได้รับ
หากเป็นไปตามหลักการนี้ สาวๆ ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลกับความอ้วน
อย่างไรก็ตามพลังงานที่มาจากน้ำตาลเป็นหลักโดยไม่ได้รับจากพลังงานอื่นๆ เลย
ปริมาณเค้ก 1 ชิ้นเล็กๆ อาจจะเท่ากับปริมาณข้าว 1 มื้อกันได้เลยทีเดียว
ดังนั้นสาวๆ จำเป็นต้องลดปริมาณน้ำตาล และควบคุมปริมาณอาหารชนิดอื่นๆ ให้ได้ครบถ้วนตามหลัก 5 หมู่
เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอทั้งไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต รวมไปถึงวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ ด้วย
อ่านเพิ่มเติม : เคล็ดลับการกินอาหารแบบ Low-carb ตัวช่วยลดความอ้วนที่สาวๆ ต้องรู้ !
เลือกกินของหวานแบบนี้…ไม่ต้องกลัวอ้วน
เมื่อน้ำตาลไม่ใช่ปัญหาที่ทำให้เกิดความอ้วนเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องดังที่กล่าวไปข้างต้น
สาวๆ ควรใช้วิธี “ควบคุม” สัดส่วนของสารอาหารให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย และลดปริมาณน้ำตาลให้น้อยลง
สำหรับสาวๆ ออฟฟิศนั่งทำงาน ให้พลังงานรวมต่อวันอยู่ที่ 1,200 กิโลแคลอรี
เปลี่ยนมื้อเย็นให้เป็นอาหารเบาพุงแคลอรีต่ำ อย่างสลัดผักหรือผลไม้ หากรู้สึกอยากกินของหวาน ควรเลือกเน้นเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพสักหน่อย
ได้ความหวานพอสดชื่น และแคลอรี่ต่ำ ทางที่ดีลองเลือกเป็นของหวานจากผลไม้ทดแทน
ซึ่งจะให้ประโยชน์มากกว่าขนมเค้กและเบเกอรี่ต่างๆ
Photo Credit : fitnessreloaded.com
นอกจากการควบคุมน้ำตาลให้พอดีแล้ว สิ่งสำคัญที่จะทำให้สาวๆ ไม่ต้องเผชิญกับความอ้วนกันชัวร์ๆ นั่นก็คือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
หลีกเลี่ยงการกินน้ำตาลในปริมาณมากทุกวันติดต่อกัน ลองเลือกเป็น Cheat day ที่สามารถเลือกกินของหวานได้จัดเต็มสักมื้อต่ออาทิตย์
รับรองว่าจะช่วยลดอาการโหยของหวาน แถมยังไม่กระทบต่อการน้ำหนักของสาวๆ อย่างแน่นอนค่ะ