สาวๆ ที่ออกกําลังกายลดความอ้วน ในช่วงแรกก็ยังรู้สึกมีกำลังใจดีอยู่ว่าน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
แต่พอควบคุมน้ำหนักไปได้ถึงจุดๆ หนึ่ง กลับพบว่าน้ำหนักไม่ยอมลดลงอีก ไม่ว่าจะพยายามยังไงก็ตาม
ด้วยลักษณะอาการดังกล่าวที่เกิดขึ้น อาจมาจากสภาวะที่เราเรียกกันว่า “Hit the Plateau” หรืออาการน้ำหนักนิ่ง
เป็นภาวะที่พบได้ทั่วไปในกลุ่มคนลดน้ำหนัก สาวๆ ที่กำลังเผชิญกับความวิตกกังวลเช่นนี้อยู่
ลองมาดูสาเหตุ และวิธีแก้ไข เพื่อจะได้ปรับตัวให้ร่างกายสมดุล และกลับมาลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกหลักมากที่สุดค่ะ
ออกกําลังกายลดความอ้วน กับสภาวะ Hit the Plateau ที่สาวๆ ควรรู้
Hit the Plateau เป็นสภาวะที่มักทำให้สาวๆ เกิดอาการท้อใจในการออกกำลังกาย
ซึ่งต้องเข้าใจก่อนว่า อาการดังกล่าวเกิดขึ้นจากที่ร่างกายเคยชินกับกิจกรรมเดิมๆ ที่ทำ รวมถึงอาหารที่เรากินด้วย
หากเกิดสภาวะน้ำหนักนิ่งขึ้นมาล่ะก็ ให้สังเกตเอาไว้ก่อนเลยว่ามาจากการทำกิจกรรมและการกินอาหารที่ซ้ำซาก
ชนิดที่เรียกได้ว่าเหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้วติดต่อกัน เป็นระเบียบวินัยมากๆ
ยกตัวอย่างเช่น การกินอาหารตามตารางที่จัดเอาไว้ใน 1 อาทิตย์แบบเป๊ะๆ ชนิดที่วนไปมาไม่ยอมเปลี่ยน
การออกกำลังกายรูปแบบเดิมทุกวัน และมีความหนักเท่าเดิม จะทำให้ร่างกายเกิดความคุ้นชิน
หลายคนอาจจะนึกไม่ถึงอีกว่า การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอในแต่ละวันในสัดส่วนเท่าเดิม ก็ยังเป็นต้นเหตุสะสมทำให้เกิดอาการน้ำหนักไม่ยอมลดลงได้เช่นกัน
ข้อสังเกตภาวะน้ำหนักนิ่งที่ไม่ได้มาจาก Hit the plateau
ถ้าน้ำหนักไม่ยอมลด เกิดภาวะน้ำหนักนิ่งอีก แล้วไปคิดว่ามาจากสภาวะ Hit the plateau เพียงอย่างเดียว
อาจจะไม่ใช่เสมอไปค่ะ แต่ให้เราสองสังเกตให้ดีว่า สภาวะนี้จะเกิดขึ้นในช่วงที่ยังมีออกกําลังกายลดความอ้วนอยู่นั่นเอง
แต่บางคนน้ำหนักไม่ยอมลดลง เป็นเพราะความเคยชิน เมื่อน้ำหนักลดไปจนถึงจุดที่เกือบจะพอใจแล้ว
พฤติกรรมเดิมๆ ก่อนลดน้ำหนักก็กลับมา ปล่อยปะละเลยการกินอาหาร วินัยที่เคยมีหลุดหายไป หย่อนยานไปบ้าง
การออกกำลังกายก็ทำไม่สม่ำเสมอเหมือนเดิม ลักษณะเช่นนี้ก็เป็นต้นเหตุทำให้น้ำหนักคงที่ได้เช่นกัน
ดังนั้นจึงไม่ควรเข้าข้างตัวเองว่ามาจากสภาวะน้ำหนักนิ่งเสมอไป ให้ลองสังเกตวินัยของตัวเองก่อนจะเป็นการดีที่สุดนั่นเองค่ะ
วิธีแก้ปัญหาการออกกําลังกายลดความอ้วน แล้วเกิดสภาวะ Hit the Plateau
เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสภาวะน้ำหนักนิ่งไม่ยอมลด จนกลายเป็นความกังวลใจของสาวๆ ตามมา
ลองปรับพฤติกรรมตัวเองดังต่อไปนี้ จะได้ช่วยให้ร่างกายเข้าสู่ความสมดุลอีกครั้ง
1.หยุดการชั่งน้ำหนักทุกวัน แต่เปลี่ยนเป็นแบบอาทิตย์ละครั้งแทน
เชื่อว่าคนที่ออกกําลังกายลดความอ้วน ส่วนมากจะติดนิสัยชั่งน้ำหนักบ่อย
เพราะอยากเห็นผลลัพธ์ภายหลังการออกกำลังกายให้เป็นแรงบันดาลใจของตัวเอง
แต่อย่าเพิ่งเข้าใจไปว่าหลังออกกำลังกายไปแล้วน้ำหนักจะลดลงได้ทันที บางคนชั่งน้ำหนักทุกมื้ออาหารวันละ 3 เวลา
พอเห็นว่าน้ำหนักไม่ลง ดันไปเชื่อว่าตัวเองเข้าสู่สภาวะ Hit the Plateau ไป ดังนั้นลองปรับความคิดใหม่
ให้หันมาชั่งน้ำหนักแค่อาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอ และให้เข้าใจใหม่ว่าน้ำหนักที่ลดลงไม่ได้เป็นตัววัดความผอมเสมอไป
ทางที่ดีให้ลองวัดสัดส่วนเอว รอบแขน หรือที่ต้นขาแทนจะดีกว่า
2.กลับไปดูตารางการออกกำลังกายและอาหารการกินของตัวเองอย่างละเอียดอีกครั้ง
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า สภาวะน้ำหนักนิ่งจะเกิดจากพฤติกรรมการออกกำลังกายและกินอาหารแบบเดิมๆ จนเป็นนิสัยเคยชิน
ชนิดที่ทำทุกอย่างเหมือนเดิมไม่ยอมเปลี่ยน ดังนั้นให้ลองกลับไปดูตารางของตัวเองที่จัดเตรียมไว้
แล้วปรับการออกกำลังกายใหม่ ให้มีความหนักเบาสลับกันไป และเพิ่มความหนักให้มากขึ้นเมื่อผ่านไประยะหนึ่งๆ
ส่วนเมนูอาหารให้มีวัน cheat day บ้าง เพื่อร่างกายจะได้ถูกกระตุ้นระบบเผาผลาญ
เลือกกินอาหารให้หลากหลาย และครบตามหลัก 5 หมู่ด้วย
3.หลีกเลี่ยงการออกกําลังกายลดความอ้วน ที่มากเกินพอดี
การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี แต่การออกกำลังกายที่มากเกินไป กลับเป็นสิ่งที่ไม่ดีเช่นกัน
การออกกำลังกายที่มากจนร่างกายรับไม่ไหว ไม่เพียงแค่จะทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย
การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ หรือแม้กระทั่งการอักเสบของเส้นเอ็นเท่านั้น แต่การกินอาหารในปริมาณน้อย
แล้วออกกำลังกายมาก จะช่วยทำให้ผอมได้จริง แต่ร่างกายจะเข้าใจว่าตัวเองกำลังอยู่ในภาวะขาดสารอาหาร
จะมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ไปลดการเผาผลาญให้น้อยลง นั่นก็มีส่วนทำให้เกิดสภาวะน้ำหนักนิ่ง
Photo Credit : bodyinfushion.com
ดังนั้นให้ออกกำลังกายแค่พอดีและสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30-60 นาที ในระดับความเข้มข้นที่แตกต่างกันออกไปตามเพศ อายุ และสุขภาพด้วย
เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้การออกกําลังกายลดความอ้วน มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ลดการเกิดสภาวะ Hit the plateau ให้น้อยลง สาวๆ ก็จะมีรูปร่างที่ผอมเพรียวและสุขภาพดีได้อย่างที่ต้องการแน่นอนค่ะ