โรคขาดวิตามินซี อาการขาดวิตามินซี และการฉีดวิตามินซีที่คุณควรรู้!

โรคขาดวิตามินซี อาการขาดวิตามินซี

วิตามินซี หรือ L-ascorbic acid เป็นวิตามินซีที่มีคุณสมบัติละลายน้ำได้ดี ซึ่งได้รับการสังเคราะห์ขึ้นจากกลูโคส

เมื่อถูกออกซิไดซ์จะเปลี่ยนมาเป็น Dehydroascorbic Acid วิตามินซีในรูปแบบดังกล่าวนั้นรับได้จากอาหารตามธรรมชาติ

โดยผักและผลไม้ชนิดต่างๆ อีกทั้งวิตามินซีจากอาหารเหล่านี้ ร่างกายยังสามารถนำไปใช้ได้อย่างทันทีอีกด้วย

และเมื่อพูดถึงวิตามินซีแล้วทั้งที เราจึงหยิบเอาสาระประโยชน์ดีๆ เกี่ยวกับวิตามินชนิดนี้มาฝาก

ตั้งแต่ อาการของคนขาดวิตามินซี โรคขาดวิตามินซี และ การฉีดวิตามินซี ที่กำลังเป็นกระแสนิยม

สำหรับผู้ที่ปรารถนาการมีผิวขาวกระจ่างใสภายในเร็ววัน รายละเอียดจะน่าติดตามอย่างไรบ้างนั้น มาดูกันเลย!

อาการของคนขาดวิตามินซี โรคขาดวิตามินซี

โรคที่เกิดจากการขาดวิตามินซี มีผลอย่างไรกับร่างกาย? เมื่อร่างกายขาดวิตามินซีก็จะแสดงอาการออกมา จะทําให้เกิดโรคดังนี้

1.โรคหวัด

โรคหวัด นับเป็นอาการของคนขาดวิตามินซีที่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด และมักเกิดขึ้นง่ายได้ในหลายคน

เนื่องจากวิตามินซีมีหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว อันเป็นกลไกลหลักของระบบภูมิต้านทาน

ประโยชน์จากวิตามินซี จะช่วยต่อต้านเชื้อไวรัสไม่ให้เข้ามาทำลายสุขภาพ ดังนั้น ผู้ที่ร่างกายขาดวิตามินซี จึงมักมีภูมิต้านทานโรคต่ำ และเป็นหวัดได้บ่อยนั่นเอง

2-health

Credit : damex.ru

2.โรคภูมิแพ้

โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่เกิดจากภูมิต้านทานในร่างกายปล่อยสารฮีสตามีนออกมาเพื่อต่อกรกับสิ่งรอบตัว เช่น ฝุ่น

หรือเกสรดอกไม้ แต่วิตามินซีจะมีสารแอนตี้ฮิสตามีนที่มีคุณสมบัติ สามารถต่อต้านสารฮิสตามีนจากในร่างกายได้ และยังช่วยปรับระบบภูมิต้านทานให้สมดุล อาการของโรคภูมิแพ้จึงทุเลาลงได้

3.โรคไมเกรน

เมื่อไรที่ ร่างกายขาดวิตามินซี จะส่งผลให้เกิดภาวะความเครียด และความเครียดก็ทำให้เกิดโรคไมเกรน

โรคกระเพาะ เบื่ออาหารและนอนไม่หลับ เป็นต้น แต่หากร่างกายได้รับวิตามินซีมากเพียงพอ ก็จะช่วยต่อต้านความเครียด และช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ได้

4.ผิวพรรณซีดโทรม

เพราะวิตามินซี จะช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนโดยตรง ทำให้เนื้อเยื่อและเส้นใยคอลลาเจนแข็งแรง

ผิวยืดหยุ่น กระชับ เต่งตึง ผิวดูอ่อนเยาว์ และเปล่งปลั่งขึ้นจนสังเกตได้ แต่หากร่างกายขาดวิตามินซีผิวจะซูบซีด เหี่ยวย่น หยาบกระด้าง แพ้ง่าย มีปัญหาฝ้า กระและจุดด่างดำ

3-skin

Credit : medonet.pl

5.ผู้ที่สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ สุขภาพจะเสื่อมโทรมเร็ว

ผู้ที่ชอบสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ร่างกายจะได้รับสารพิษเยอะมาก โดยเฉพาะ นิโคติน และ แอลกอฮอล์ จะเข้าไปขัดขวางการดูดซึมของสารอาหารต่างๆ ทำให้ร่างกายได้รับวิตามินไม่เพียงพอ

ส่งผลให้มีสุขภาพเสื่อมโทรม แก่เร็วและเกิดโรคร้ายต่างๆ ได้ง่าย ดังนั้น ผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าว หากไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ได้ ก็ควรกินวิตามินซีมากกว่าคนทั่วไป

5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ การฉีดวิตามินซี

ผู้ที่อยากมีผิวขาวกระจ่างใส หากการรับประทานวิตามินซีในรูปแบบอาหารเสริม ยังไม่เห็นผลในการบำรุงผิวได้ชัดเจนเพียงพอ

การฉีดวิตามินซีจึงนับเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ที่นอกจากจะช่วยในเรื่องสุขภาพร่างกาย และช่วยบำรุงผิวในตัวได้ดีแล้ว

ยังทำให้เห็นผลลัพธ์รวดเร็วกว่าการรับประทานอีกด้วย ไม่ว่าจะจากผักผลไม้หรือแบบอาหารเสริมก็ตาม

แต่ก่อนฉีด คุณควรทำการศึกษา 5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการฉีดวิตามินซีอย่างถูกต้อง เพื่อให้เป็นผลดีต่อสุขภาพ

และไม่มีผลข้างเคียงปรากฎตามมา ซึ่งหลัก 5 ข้อที่ควรรู้ก่อนฉีดนั้นมีดังนี้

1.ฉีดวิตามินซีปริมาณเข้มข้น ก็ยังคงบำรุงผิวได้เพียงบางส่วนเท่านั้น

วิตามินซีสำหรับฉีด จะมีปริมาณมิลลิกรัมแบบเข้มข้น ซึ่งนับว่าเพียงต่อการบำรุงผิว แม้จะฉีดเข้าสู่เส้นเลือดโดยตรงก็ตาม

แต่ร่างกายก็ดูดซึมนำไปใช้ในปริมาณที่จำกัด และยังบำรุงผิวได้เพียงบางส่วนเท่านั้น อีกทั้งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละคน ยังแตกต่างกัน

เพราะ วิตามินซี ถือว่ามีบทบาทหน้าที่ในการผลักดันส่งเสริม ให้สารอาหารดูแลผิวอื่นๆ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

4-Vaccine

Credit : healthtap.com

2.รับวิตามินซีแบบฉีด หรือจากผักผลไม้ แบบไหนดีกว่า?

การฉีดวิตามินซีในแบบเข้มข้นนั้น ด้วยเพราะร่างกายไม่ได้นำวิตามินซีไปใช้หมด บางส่วนจึงยังคงถูกขับออก ผ่านทางปัสสาวะเหมือนเดิมอยู่ดี

ในขณะที่การรับประทานอาหารที่ให้วิตามินซีอย่างผักผลไม้ แม้ว่าปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายได้รับอาจจะน้อยกว่า

แต่อาหารเหล่านั้นยังอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุและสารอาหารอื่นๆ อีกหลายชนิด

โดยเฉพาะ วิตามินเอ และ วิตามินอี ที่จะส่งผลให้มีสุขภาพผิวนุ่มชุ่มชื้น และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้

3.ควรตรวจร่างกายก่อนฉีดวิตามินซี

ก่อนฉีดวิตามินซี ควรตรวจสภาพร่างกายก่อนว่าแข็งแรงเพียงพอที่จะฉีดวิตามินซีในปริมาณเข้มข้นหรือไม่

โดยตรวจให้แน่ใจว่า ตับ และ ไต แข็งแรงเพียงพอ และไม่มีประวัติของโรคภูมิแพ้ เพราะปัญหาสุขภาพดังกล่าว มีผลต่อการดูดซึมวิตามินซีเข้าสู่ร่างกายนั่นเอง เพราะฉะนั้น ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดจะดีที่สุด

4.ปริมาณที่ควรฉีดต่อสัปดาห์

ควรฉีดวิตามินซีในปริมาณเพียงพอเหมาะสม โดยควรฉีดไม่เกิน 2 – 5 กรัมต่อสัปดาห์ และควรอยู่ภายใต้คำวินิจฉัยจากแพทย์

นอกจากนี้ หากพบว่า มีอาการข้างเคียงเกิดขึ้น ควรหยุดฉีดวิตามินซีทันที เพราะถึงแม้ผลข้างเคียงจากวิตามินซี จะไม่ค่อยมีปรากฎเท่าใดนัก

แต่การที่ร่างกายเรา ได้รับวิตามินซีในปริมาณมากเกินไป ก็ย่อมส่งผลให้เกิดอาการท้องอืดหรือท้องเสียขึ้นได้เช่นกัน

5-Intravenous-Vitamin-Therapy

Credit : aaps.ca

5.หลังฉีดวิตามินซี ควรดื่มน้ำให้มากๆ

ปกติแล้ว การรับประทานวิตามินซีในรูปแบบอาหารเสริม วันละมากกว่า 1,000 มิลลิกรัม ร่างกายก็นับว่าจำเป็นต้องได้รับน้ำมากอย่างเพียงพอ เพื่อช่วยในการละลายของวิตามินซีอยู่แล้ว

โดยเฉพาะหากฉีดวิตามินซีในปริมาณเข้มข้น หลังฉีดก็ยิ่งต้องดื่มน้ำในปริมาณมากๆ เช่นกัน

ทั้งนี้ ก็เพื่อช่วยลดโอกาสที่วิตามินซี จะเข้าไปทำหน้าที่ขัดขวางกระบวนการดูดซึมสารอาหารชนิดอื่นๆ ไม่ให้เข้าสู่ร่างกายได้อย่างราบรื่น เช่น ซีลีเนียม แร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อร่างกาย และทองแดง เป็นต้น

จะเห็นได้ว่ าอาการของคนขาดวิตามินซี หรือ โรคขาดวิตามินซี นั้นมีอะไรบ้าง หากไม่อยากให้ร่างกายเกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ก็ควรหันมารับประทานอาหารที่ให้วิตามินซีอย่างเพียงพอในแต่ละวัน

รวมถึง 5 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดวิตามินซี เพื่อผิวขาวกระจ่างใส ทั้งหมดนี้ล้วนให้ประโยชน์แก่คนรักสุขภาพ และอยากมีผิวสวยไม่น้อย ดังนั้นแล้ว อย่าลืมนำคำแนะนำดีๆ จากเราไปปฏิบัติตามกันบ้างนะคะ

[wpsm_box type=”info” float=”none” text_align=”left”]

บทความแนะนำเกี่ยวกับ วิตามินซี

[/wpsm_box]