โรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ อาการเป็นอย่างไร มีวิธีรักษาได้อย่างไรบ้าง?

โรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ เกิดจาก

โรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ (Lumbar spinal stenosis) อาการปวดหลังบริเวณช่วงเอว เป็นสิ่งที่มักพบได้บ่อยในสาวๆ วัยทำงาน ไม่ว่าจะเป็นคนที่นั่งเก้าอี้ติดต่อกันตลอดเวลา

หรือคนที่อาจจะเคลื่อนไหวผิดท่าผิดทางไป มักจะทำให้เกิดการพลิกตัวของเส้นเอ็น ตามมาด้วยอาการอักเสบที่ปวดร้าวอย่างน่ารำคาญ

ซึ่งบางคนรุนแรงถึงขั้นที่ไม่สามารถทำงาน หรือทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายอื่นๆ ได้ไปช่วงระยะหนึ่งๆ เลยทีเดียว อาการเหล่านี้จะหายไปได้เอง

หากเกิดขึ้นจากสาเหตุธรรมดาทั่วไป แต่หากเป็นปรากฏการณ์ที่บ่งบอกถึงการเกิดโรคร้ายนั่นเอง

เรามาทำความรู้จักกับอาการของโรคนี้กันว่า มีที่มาและอาการเป็นอย่างไร เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพตามมาเอาได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียวค่ะ

โรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ คืออะไร?

กระดูกสันหลังของเราแบ่งออกเป็น 3 ระดับด้วยกันตั้งแต่ ระดับต้นคอ ระดับอกหรือกลางหลัง และระดับเอวส่วนล่าง

การตีบแคบของโพรงประสาทในกระดูกสันหลัง จะเป็นภาวะที่เกิดขึ้นกับโพรงภายในกระดูกสันหลัง (Spinal canal) ภายในคือเส้นทางผ่านของเส้นประสาทที่เรียกกว่า “Neural foramina”

การตีบที่พบได้มากคือ ระดับต้นคอและเอวส่วนล่าง ส่วนกลางหลังหรือระดับอกจะเป็นการตีบที่พบได้ไม่มากนัก ช่องโพรงกระดูกที่เกิดการตีบแคบ

อาจจะเกิดขึ้นจากโรคหรือภาวะของกระดูกที่หนาตัวขึ้น หรือแม้กระทั่งเส้นเอ็นหนาตัว หมอนรองกระดูกหรือกระดูกสันหลังเกิดการเคลื่อนตัว

ทำให้เกิดอาการปวด แม้จะดูเป็นชื่อที่ไม่ค่อยคุ้นหู แต่โรคนี้เป็นโรคที่พบได้บ่อย

ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง และคอยดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมไปพร้อมๆ กันด้วย

สาเหตุของการเกิดโรคโพรงกระดูสันหลังตีบแคบ

สาเหตุโดยทั่วไปที่พบได้บ่อย คือความเสื่อมสภาพของกระดูกไขสันหลังเอง จนทำให้เกิดการหนาตัวของโครงสร้างที่อยู่รอบๆ

ดังนั้นจึง มักพบในผู้สูงอายุมากกว่าในวัยเด็ก บางรายอาจมีสาเหตุมาจากการอักเสบของข้อ ลักษณะทางกรรมพันธุ์ เช่น โรคกระดูกสันหลังผิดรูปตั้งแต่กำเนิด

การเกิดอุบัติเหตุที่กระทบต่อกระดูกสันหลัง เนื้องอก จนเข้าไปกดทับโพรงกระดูก

ลักษณะอาการของโรคกระดูกสันหลังตีบ ที่พบได้ทั่วไป

สำหรับอาการของโรคจะแตกต่างกันออกไปตามระดับความรุนแรง หากเกิดขึ้นบริเวณกระดูกสันหลังต้นคอ

จะทำให้ปวดและชาบริเวณต้นคอ บางรายมีอาการอ่อนแรงร่วมด้วย เนื่องจากการกดทับกันของเส้นประสาท

หากเกิดบริเวณเอวจะทำให้เกิดอาการปวดหลัง ยิ่งจะปวดรุนแรงมากขึ้นในท่ายืนหรือท่าแอ่นหลัง

ร่วมกับอาการชาและอ่อนแรงได้เช่นเดียวกัน แต่อาการอ่อนแรงจะส่งผลไปถึงขาทั้งสองข้างได้

ในขณะเดินหรือยืน เสี่ยงต่อการหกล้มได้หากเกิดอาการในช่วงที่กำลังเดินอยู่ เมื่อนั่งพักอาการจึงจะค่อยๆ กลับมาดีขึ้น

เมื่อมีอาการเกิดขึ้นผู้ป่วยควรรบเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้น

โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีอาการปวดขาหรือปวดหลังมากจนส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหว

ไม่สามารถเดินเหินได้ปกติ เดินได้เพียงระยะทางสั้นๆ หยุดเดินบ่อย หรือมีปัญหาในการขับถ่าย

ในรายที่รุนแรงจะพบการติดเชื้อ ทำให้มีอาการปวดร่วมกับภาวะไข้ เบื่ออาหาร

น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว และมักพบอาการปวดอย่างรุนแรงในช่วงกลางคืน

[wpsm_video]https://www.youtube.com/watch?v=glcWonbdxjI[/wpsm_video]

ขั้นตอนในการรักษาโรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ

การรักษาโรคนี้ แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยโรคในเบื้องต้นเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดว่ามาจากโรคหรือความผิดปกติภายในโพรงประสาทเอง

มีการตรวจร่างกาย ซักประวัติ เอกซเรย์กระดูกสันหลังแบบธรรมดาเพื่อหาความผิดปกติว่าเกิดขึ้นจากกระดูกสันหลังจริงหรือไม่

หากพบว่าเกิดขึ้นจากโรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ จะใช้การรักษาด้วยยาและทำกายภาพบำบัดในเบื้องต้น

แต่หากอาการรุนแรงจะต้องใช้การผ่าตัดหรือวิธีที่ซับซ้อนมากกว่าเป็นทางเลือกต่อไป

spinal stenosis การพยาบาล

Photo Credit : youtube.com

ดังนั้นหากสาวๆ คนไหนที่มีปัญหาอาการปวดหลังแบบผิดปกติติดต่อกันหลายวัน อาการไม่ทุเลาลงมา

ควรเข้ารับการตรวจจากแพทย์ เพื่อจะได้หาสาเหตุที่แน่ชัด ป้องกันการลุกลามของโรคหากติดเชื้อไปยังบริเวณข้างเคียง

ที่จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของเราได้มากกว่า และอาจสายเกินแก้ต่อการรักษาให้หายเป็นปกติก็เป็นได้