ทางเลือกของการลดน้ำหนัก มีให้เราได้เลือกใช้อย่างหลากเลย แต่ถึงกระนั้นทุกวิธีการล้วนตั้งอยู่บนพื้นฐานเดียวกัน
ความเข้าใจในการลดความอ้วนของแต่ละบุคคล จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะบอกได้ว่า ใครคนนั้นจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว
ซึ่งตามหลักของการลดน้ำหนักที่มักจะได้รับคำแนะนำคือ การออกกำลังกาย และ ควบคุมอาหาร เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ให้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อแบบผิดๆ ของการลดความอ้วน เป็นสาเหตุที่ทำให้สาวๆ หลายคนมีพฤติกรรมอันไม่เหมาะสม
ไม่สามารถลดน้ำหนักได้อย่างที่คาดหวังไว้ อีกทั้งยังทำให้ความมุ่งมั่นตั้งใจที่เคยมีมาหมดลงไปอีกด้วย
เพราะฉะนั้นหากสาวๆ ท่านไหนกำลังอยู่ในช่วงของการไดเอทอย่างจริงจังอยู่ล่ะก็
เราลองมาดูพฤติกรรมต้องห้ามต่อไปนี้ ที่จะส่งผลให้การลดน้ำหนักของสาวๆ ล้มเหลวลงไปได้ค่ะ
ชอบกินอาหารเย็นเป็นมื้อดึก
พฤติกรรมนี้ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากในช่วงเวลาเย็นร่างกายจะเริ่มเข้าสู่โหมดพักผ่อน คือช่วงเวลาเข้านอน
ดังนั้น การเผาผลาญพลังงานจึงลดต่ำลง การทานอาหารเข้าไปในช่วงเวลานี้ จะส่งผลให้ร่างกายได้รับสารอาหารเกินความจำเป็น และไม่ถูกเผาผลาญ
ดังนั้นส่วนที่เหลือ มันจึงจะถูกเก็บเอาไว้กลายเป็นไขมันได้ง่าย อีกทั้งการทานในช่วงดึกบ่อยๆ
ยังเป็นสาเหตุ ทำให้เกิดโรคภัยต่างๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะภาวะกรดไหลย้อน และอาหารไม่ย่อยตามมา
ข้อแนะนำของการทานอาหารในช่วงนี้ คือ ควรจะทานก่อนเวลาหกโมงเย็น แต่ถ้าหากใครรู้สึกหิว ก็สามารถทานเป็นอาหารอ่อนย่อยง่าย
หรือจะเป็น นมไขมันต่ำ น้ำเต้าหู้ หรือผลไม้ อย่างแอปเปิ้ลเขียวจะดีกว่าค่ะ
กินน้อยๆ เพราะกลัวอ้วน
ความเชื่อแบบนี้เป็นความเชื่อที่ผู้คนส่วนมากยังมักคิดว่ามันช่วยในการลดน้ำหนักได้อยู่
แต่ทว่าในความเป็นจริงการอดอาหารหรือกินในปริมาณน้อยจะยิ่งส่งผลให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย
ระบบเผาผลาญเสียหาย และกลับมาอ้วนได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะอาหารเช้าที่มีความจำเป็นอย่างมาก
คนที่งดอาหารมื้อนี้หรือกินแต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์ในปริมาณน้อยๆ ร่างกายก็จะมีพลังงานไม่เพีลดน้ําหนัก ผิดวิธี ยงพอในการทำกิจกรรมต่างๆ
สังเกตได้ว่าคนที่หลีกเลี่ยงอาหารเช้ามักจะไม่ค่อยสดชื่น หงุดหงิดง่าย ไม่ค่อยมีสมาธิและรู้สึกง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นจงเปลี่ยนความเชื่อนี้เสียใหม่ เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นการทานโปรตีน ผักและผลไม้
ลดคาร์ไฮเดรตและไขมันให้น้อยลง และที่สำคัญต้องกินให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องนำไปใช้ด้วย
พรุ่งนี้ค่อยลดใหม่
อาการผัดวันประกันพรุ่งมักเกิดขึ้นกับผู้ที่ไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นในตัวเอง
หรือไม่มีจิตใจที่มุ่งมั่นมากพอต่อการลดความอ้วน ส่งผลให้คนเหล่านี้มีโอกาสล้มเหลวได้สูงกว่า
การคิดเอาง่ายๆ ว่าวันนี้อีกแค่วันเดียวเท่านั้น วันพรุ่งนี้ค่อยเริ่มต้นใหม่ จะยิ่งทำให้เรารู้สึกเบื่อหน่ายกับการลดน้ำหนัก
และสุดท้ายก็กลายเป็นการผัดวันไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย ด้วยข้ออ้างมากมายที่เราหาความสุขใส่ตัว ด้วยการกินเพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราว
ดังนั้นทางที่ดีคือการเลิกนิสัยแบบนี้ ก่อนที่จะเป็นความเคยชินจนทำให้รู้สึกหมดหวังกับการออกกำลังกาย
สังสรรค์บ่อยเกิน
การออกไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงไม่ใช่สิ่งผิด แต่การออกไปบ่อยครั้งจะทำให้เราไม่สามารถควบคุมการกินของตัวเองได้ดี
อีกทั้งการสังสรรค์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นตัวร่วมในงานด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้โอกาสล้มเหลวในการลดความอ้วนได้มากขึ้น
ดังนั้นหากใครที่ต้องการลดน้ำหนักแบบจริงจังก็ควรหันมาตั้งสติ สังสรรค์ให้น้อยลงและหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกฮอล์
อันเป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้เรากินทุกอย่างที่ขวางหน้าได้อย่างไม่รู้ตัวกันเลยทีเดียว
เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด
พฤติกรรมเช่นนี้นอกจากจะส่งผลเสียต่อการทำงานของกระเพาะอาหารที่จะทำให้มันทำงานหนักมากขึ้น
อีกทั้งยังทำให้เราทานอาหารเข้าไปเกินปริมาณที่ร่างกายต้องการจริงๆ
ดังนั้นทางที่ดีควรหันมาปรับพฤติกรรมเช่นนี้เสียใหม่ ช่วงแรกอาจจะยังไม่คุ้นชินกับการเปลี่ยนแปลง
Photo Credit : authoritynutrition.com
โดยเริ่มจากเคี้ยวอาหารอย่างช้าๆ มีสติอยู่กับอาหารในปากจึงค่อยกลืนลงไป
จะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มเร็วขึ้น สบายท้องและช่วยป้องกันไม่ให้ทานอาหารมากเกินไปอีกด้วย
หากสาวๆ คนไหนมีพฤติกรรมอันเป็นผลเสียต่อการลดน้ำหนักเหล่านี้อยู่ล่ะก็
ควรหันมาปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่เสียตั้งแต่วันนี้ แล้วการลดความอ้วนของทุกคน จะกลายเป็นเรื่องง่ายมากขึ้นได้อย่างแน่นอนค่ะ