วัยสูงอายุ เป็นวัยที่ระบบต่างๆ ในร่างกายเริ่มทำงานช้าลงไป โดยเฉพาะระบบการกลืนอาหาร จึงอาจทำให้เกิดการสำลักอาหารได้
ซึ่งก็มีความเป็นอันตรายมากทีเดียว เพราะฉะนั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการ สำลักอาหารในผู้สูงอายุ
เราควรจะทำความเข้าใจกับอาการนี้ให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบการกลืนอาหารที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้สูงอายุ
หรือ วิธีป้องกันการสำลักอาหารในผู้สูงอายุ ซึ่งเราก็ได้รวบรวมข้อมูลที่สำคัญมาฝากกัน ดังนี้
การเปลี่ยนแปลงของระบบการกลืนอาหารในวัยสูงอายุ
เพราะวัยสูงอายุจะมีระบบการกลืนอาหารที่ทำงานช้าลง จึงทำให้อาจสำลักจนเสียชีวิตได้ เราจึงไม่ควรละเลย
และจะต้องให้ความใส่ใจกับการทานอาหารของ ผู้สูงอายุ ให้มากขึ้น ซึ่งก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนเลยว่า ระบบการกลืนอาหารในวัยนี้นั้นเป็นอย่างไร
- มีอาการปากแห้ง เนื่องจากมีการผลิตน้ำลายออกมาน้อยลง จึงทำให้กลืนอาหารได้ยากกว่าเดิม และอาจรู้สึกฝืดคออีกด้วย
- ฟันและเหงือกไม่ค่อยแข็งแรงทำให้เคี้ยวอาหารได้ยาก ซึ่งผู้สูงอายุอาจต้องใช้เวลาในการเคี้ยวอาหารให้ละเอียดนานพอสมควรเลยทีเดียว แต่บางครั้งด้วยความใจร้อน ผู้สูงอายุอาจกลืนทันทีทั้งที่ยังไม่ละเอียดพอ จึงทำให้เสี่ยงต่อการสำลักได้นั่นเอง
- การทำงานของลิ้นและริมฝีปากเริ่มทำงานได้แย่ลง จึงต้องกลืนอาหารหลายๆ ครั้ง จึงเป็นสาเหตุให้อาจพลาดสำลักอาหารได้
- คอหอยปิดช้าลงทำให้อาหารอาจค้างอยู่ในคอหอยนานขึ้น
- ในขณะกลืนอาหาร ร่างกายอาจหยุดหายใจในช่วงนั้นพอดี ทำให้สำลักอาหารได้
แนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันการสำลักอาหารในผู้สูงอายุ
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้สูงอายุเกิดอาการสำลักอาหาร ควรปฏิบัติตามแนวทาง ดังนี้
1.นั่งตัวตรงขณะกินอาหาร
ในขณะนั่งกินอาหาร ควรให้ผู้สูงอายุนั่งตัวตรง เพื่อให้อาหารไหลลงสู่กระเพาะอาหารได้ง่าย และช่วยให้กลืนได้ง่ายขึ้นด้วย
นอกจากนี้ไม่ควรให้ผู้สูงอายุนอนทันทีหลังกินอาหารเสร็จ เพราะอาจมีอาหารค้างอยู่ในคอหอยโดยที่เราไม่รู้ ซึ่งอาจทำให้ผู้สูงอายุสำลักอาหารออกมาได้นั่นเอง
2.กินอาหารช้าๆ เคี้ยวให้ละเอียดที่สุด
ให้ผู้สูงอายุกินอาหารช้าๆ และพยายามเคี้ยวให้ละเอียดที่สุด โดยคุณอาจจัดโต๊ะนั่งกินข้าวด้วยกันทุกๆ มื้อก็ได้
เพราะการมีลูกหลานนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย จะทำให้ผู้สูงอายุมีความสุขและใส่ใจกับการกินมากขึ้นนั่นเอง
3.อย่ากินอาหารขณะรู้สึกเหนื่อย
ในขณะที่ผู้สูงอายุกำลังรู้สึกเหนื่อย โดยเฉพาะหลังจากเพิ่งออกกำลังกายหรือไปเดินเล่นมา ไม่ควรให้ผู้สูงอายุกินอาหารในทันที
ควรรอให้นั่งพักจนหายเหนื่อยก่อน เพราะขณะที่กำลังเหนื่อย จะหายใจถี่ขึ้นและรู้สึกหายใจลำบากมากขึ้น
หากกินอาหารในตอนนี้ก็จะไปขัดกับการหายใจ ทำให้อาจหยุดหายใจในขณะกำลังกลืนอาหารและเกิดการสำลักได้นั่นเอง
ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะกับการนั่งพักผ่อนให้หายเหนื่อย ก็คือประมาณ 30 นาที
4.อาหารควรมีขนาดพอดีคำ
อาหารผู้สูงอายุ ควรมีขนาดพอดีคำ คือไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป และควรมีความนุ่ม เพื่อให้ผู้สูงอายุเคี้ยวง่ายขึ้นด้วย
นอกจากนี้หากเป็นอาหารที่ไม่แห้งจนฝืดคอก็จะดีมาก เพราะอย่าลืมว่าต่อมน้ำลายของวัยนี้จะผลิตน้ำลายออกมาได้น้อย ซึ่งก็จะทำให้กลืนได้ยาก
5.หลีกให้ไกลจากสิ่งรบกวน
สิ่งรบกวน เช่น ทีวี วิทยุ หรือการพูดคุยกันบนโต๊ะอาหาร ควรหลีกเลี่ยงให้ไกลหากมีผู้สูงอายุนั่งอยู่ด้วย
เพราะนั่นอาจดึงความสนใจจนทำให้ผู้สูงอายุลืมไปว่ากำลังกินข้าวอยู่ และเผลอลืมตัวกลืนอาหารที่ยังไม่ละเอียดจนสำลักได้
ทางที่ดีควรจัดห้องอาหารให้เป็นมุมที่เงียบสงบที่สุดและอย่าให้มีอะไรมาดึงความสนใจของผู้สูงอายุได้
6.กินอาหารคำละ 1 ชนิด
ในกรณีที่มีอาหารหลายๆ อย่าง ควรค่อยๆ ตักอาหารให้ผู้สูงอายุทีละอย่าง และให้ท่านกินอาหารคำละ 1 ชนิดเท่านั้น
เพื่อป้องกันการสำลัก เนื่องจากการกินอาหารหลายชนิดใน 1 คำ อาจเสี่ยงต่อการสำลักได้มากที่สุด
Credit : activeageing.nl
หากใครที่มี ผู้สูงอายุ ในบ้าน ควรดูแลเรื่องการกินอาหารของท่านให้ดี เพราะแค่เพียงละเลยไปนิดเดียว
ก็อาจทำให้เกิดการสำลักอาหารได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ควรจัดมุมกินข้าวหรือโต๊ะอาหารให้อยู่ในจุดที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกด้วย
เพื่อที่ผู้สูงอายุจะได้ทานอาหารได้อย่างมีความสุขและมีสุขภาพที่ดีขึ้นด้วย