อาการวูบ หน้ามืดบ่อย อาจเป็นอันตรายกว่าที่คุณคิด เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นผลมาจากโรคร้ายบางโรคที่เราไม่รู้ตัวได้นั่นเอง
แถมยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมากอีกด้วย ซึ่งเราก็ได้รวบรวม 10 ข้อที่อาจเป็นสาเหตุของอาการหน้ามืดมาให้ทำความเข้าใจกันดังนี้
สาเหตุอาการหน้ามืดบ่อย มีอะไรบ้าง?
1.โรคโลหิตจาง
จากการที่ร่างกายมีระดับฮีโมโกลบินต่ํากว่าปกติ (Hemoglobin) จะทำให้เกิดอาการหน้ามืดและวูบได้บ่อยครั้ง ดังนั้นอาการดังกล่าว จึงอาจเกิดจากภาวะโลหิตจาง
เนื่องจากร่างกายได้รับธาตุเหล็กน้อยเกินไปนั่นเอง นอกจากนี้ในผู้หญิงที่รอบเดือนมามากกว่าปกติ ก็อาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจางและมีอาการหน้ามืดบ่อยๆ ได้เช่นกัน
โดยสามารถแก้ได้ด้วยการทานธาตุเหล็กเสริมที่แพทย์สั่งให้ และทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะ อาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก เช่น ตับ ผักใบเขียว ไข่แดงและเนื้อสัตว์(เนื้อแดง) เป็นต้น
2.ความเครียด
การมีความเครียดและวิตกกังวลมากเกินไป ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการหน้ามืดและวูบบ่อยๆ ได้เหมือนกัน
เพราะความเครียดจะไปทำให้ความดันเลือดต่ำลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดอาการวูบได้นั่นเอง ซึ่งในบางรายก็อาจถึงขั้นหมดสติเลยทีเดียว
ดังนั้นจึงควรพยายามผ่อนคลายความเครียดอยู่เสมอ ด้วยการปล่อยวาง และหากิจกรรมสนุกๆ ทำเพื่อผ่อนคลายบ้าง เท่านี้ก็จะทำให้สุขภาพดีพอสมควร
3.ความดันเลือดต่ำ
คนส่วนใหญ่มักจะโฟกัสไปที่ปัญหาความดันเลือดสูง โดยลืมนึกไปว่า หากความดันเลือดต่ำ ก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เหมือนกัน
โดยเฉพาะอาการหน้ามืดและวูบบ่อยๆ ซึ่งสังเกตได้จากอาการหน้ามืดที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อขยับร่างกายอย่างรวดเร็ว เช่นการลุกขึ้นหรือหันหน้าเร็วๆ เป็นต้น
ดังนั้นเมื่อมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพื่อการวินิจฉัยและทำการรักษาในทันทีนั่นเอง
4.พักผ่อนน้อย
สำหรับกรณีนี้มักจะเกิดขึ้นบ่อยในวัยทำงานและนักเรียนนักศึกษาที่เรียนหนัก เนื่องจากการพักผ่อนน้อย จะทำให้ร่างกายเกิดความอ่อนเพลีย และมีอาการหน้ามืด เป็นลมได้นั่นเอง
โดยเฉพาะเมื่อต้องยืนตากแดดเป็นเวลานาน จะมีโอกาสที่จะเกิดอาการดังกล่าวได้สูงกว่าปกติ ดังนั้นจึงควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออยู่เสมอ
ซึ่งในหนึ่งวันควรนอนให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง แล้วคุณจะมีสุขภาพที่ดีห่างไกลจากอาการหน้ามืดแน่นอน
5.การทานยาบางชนิด
รู้หรือไม่ว่าการทานยาบางชนิดก็อาจทำให้เกิดอาการวูบได้เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้แพทย์จึงไม่ค่อยแนะนำให้ซื้อยาทานเองนั่นเอง
นั่นก็เพราะยาบางชนิดจะไปลดระดับความดันโลหิตให้ต่ำลง จึงมักจะเกิดอาการหน้ามืดได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อขยับเปลี่ยนท่า
เพราะฉะนั้น ก่อนจะทานยาอะไรควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ และควรให้แพทย์สั่งจัดยาให้จะดีที่สุด
นอกจากนี้ ยาลดความอ้วนก็เป็นตัวยาอีกชนิดหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดอาการเหล่านี้เหมือนกัน ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด
6.ความผิดปกติของสมอง
เมื่อสมองมีความผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นภาวะหลอดเลือดสมองอุดตัน การเป็นโรคลมชักหรือภาวะอื่นๆ
ก็เป็นผลให้เกิดอาการหน้ามืดได้เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับอาการปวดศีรษะร่วมด้วย ดังนั้นหากมีอาการหน้ามืด วูบและปวดศีรษะ
ไม่ว่าจะปวดน้อยหรือปวดมาก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติของสมองโดยด่วน เพราะหากปล่อยไว้นานๆ
อาจอันตรายถึงขั้นเป็นอัมพฤตอัมพาตได้เลยทีเดียว น่ากลัวแบบนี้อย่าได้ชะล่าใจเลยเชียว
7.ไอแรงหรือเบ่งอุจจาระแรง
เพราะการไอหรือการเบ่งอุจจาระแรงๆ จะทำให้ความดันเลือดตกอย่างรวดเร็ว จึงเกิดอาการวูบและหน้ามืดแบบกะทันหัน
ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาการตัวเย็น เหงื่อชื้นร่วมด้วย โดยจะต้องอยู่นิ่งๆ สักพักเพื่อให้ความดันเข้าที่ แล้วอาการวูบก็จะค่อยๆ หายไปในที่สุด
แต่อย่างไรก็ตาม เวลาไอหรือเบ่งอุจจาระพยายาม อย่าใช้แรงมากเกินไปจะดีที่สุด
8.ระบบประสาทไวกว่าปกติ
การที่ระบบประสาทไวเกินไปก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพเหมือนกัน เพราะแค่เจอกับอาการร้อนจัดหรือเย็นจัด
ก็ส่งผลให้มีอาการปวดหัว หน้ามืดได้ง่าย ซึ่งบางคนก็อาจถึงขั้นหมดสติได้เลยทีเดียว เพราะเลือดมีการสูบฉีดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
จึงทำให้เกิดอาการดังกล่าวนั่นเอง ดังนั้นใครที่มีระบบประสาทไวกว่าปกติ อาจลองปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางแก้ไขหรือป้องกันดู
เพื่อการมีสุขภาพที่แข็งแรงและไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากเกินไป
9.โรคเบาหวาน
สังเกตได้ว่าคนที่เป็นโรคเบาหวานมักจะมีอาการวูบและหน้ามืดได้บ่อย นั่นก็เพราะภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำและการปัสสาวะบ่อยๆ
ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ส่งผลให้เกิดอาการดังกล่าว ดังนั้นเมื่อมีอาการหน้ามืดร่วมกับปัสสาวะบ่อยๆ อย่านิ่งนอนใจ
ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพราะคุณอาจกำลังเป็นโรคเบาหวานก็ได้ ซึ่งโรคนี้หากปล่อยไว้นานๆ ก็จะทำให้รักษาให้หายได้ยากและมีโอกาสเสียชีวิตได้สูง
10.ความผิดปกติของหัวใจ
เมื่อเกิดความผิดปกติของหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นภาวะหัวใจเต้นช้าลง เส้นเลือดหัวใจตีบตันหรืออื่นๆ ก็ทำให้มีอาการวูบและหมดสติได้
ซึ่งก็เสี่ยงต่อภาวะหัวใจวายมากทีเดียว เพราะฉะนั้นเมื่อมีอาการหน้ามืดบ่อยๆ อาจลองไปพบแพทย์ดู
เพราะโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหัวใจไม่ใช่โรคที่ควรชะล่าใจ หากปล่อยไว้ก็จะเป็นอันตรายสูงมาก
Credit : eruportal.com
อาการหน้ามืด บ่อยๆ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้นจึงไม่ควรชะล่าใจ เมื่อมีอาการดังกล่าวควรไปพบแพทย์โดยด่วน
เพื่อที่แพทย์จะได้ทำการวินิจฉัยและรักษาได้ทันนั่นเอง โดยเฉพาะคนที่มีอาการวูบ หน้ามืดควบคู่กับอาการอื่นร่วมด้วย
ซึ่งอย่างน้อยก็ได้ทราบสาเหตุที่แท้จริง พร้อมรับคำแนะนำจากแพทย์อย่างถูกวิธี แล้วอาการหน้ามืดจะค่อยๆ ลดความถี่ลงไปจนหายเป็นปกติในที่สุด