โรคเหน็บชา วิธีรักษาอาการเหน็บชา ทำอย่างไร

โรคเหน็บชา

โรคเหน็บชา (Beriberi) อาจมีผลกระทบต่อคนสูงอายุเสียส่วนใหญ่ ซึ่งในคนทั่วไปที่ยังไม่ได้รับผลกระทบนั้น ก็อาจจะไม่ใส่ใจและปล่อยปะละเลยในอาการเหน็บชานี้ไป

แต่ต้องบอกก่อนเลยว่า ในปัจจุบันนี้ก็สามารถพบ คนที่มี อาการของโรคเหน็บชา ได้ ทั้งในเด็กวัยรุ่นและคนวัยทำงานได้ด้วยเช่นกันค่ะ

ซึ่งนอกจากการที่ร่างกายเสื่อมลง เพราะอายุที่มากขึ้นแล้วก็ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ

ไม่ว่าจะเป็น ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ภาวะหลอดเลือดอุดตัน ภาวะ การขาดวิตามินบี

หรืออาจได้รับสารพิษ สะสมในร่างกายเป็นเวลานานโดยไม่รู้ตัว เช่น สารหนู สารตะกั่ว ยาฆ่าแมลง เป็นต้น

หากเราเริ่มรู้สึกถึง อาการเหน็บชาตามมือและเท้า อาการเป็นตะคริวบ่อยๆ หรืออาจเข้าข่ายอาการของปลายประสาทอักเสบ

ให้รีบหาสาเหตุของการเกิดอาการ แล้วทำการรักษาให้ทันท่วงที เพื่อป้องกันอาการเหน็บชาที่รุนแรงต่อไป

หรืออาจไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาที่ถูกต้องทันทีค่ะ เพราะอาจจะมีอาการอื่นๆ แทรกซ้อนร่วมด้วย ที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้นั่นเองค่ะ

อาการเหน็บชานั้น มีหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ชาทั้งตัว, ชาตามบริเวณปลายนิ้วมือนิ้วเท้า, ชาบริเวณใดบริเวณหนึ่งของร่างกาย, ชาครึ่งซีกข้างใดข้างหนึ่ง, ชาครึ่งตัว เป็นต้น

วิธีรักษาอาการของโรคเหน็บชา ทำอย่างไร

 

หากเริ่มหันมาใส่ใจดูแลตัวเอง และคนรอบข้างมากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดอาการของโรคเหน็บชาได้ นั้นก็สามารถทำได้ค่ะ

เพราะมีทั้งอาหารที่มีประโยชน์ และสามารถช่วยป้องกันอาการเหน็บชาได้เป็นอย่างดีค่ะ

ดังนั้น ควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วย วิตามินบี และวิตามินบี1 เพราะวิตามินบีนั้น สามารถช่วยบำรุงร่างกาย

และป้องกันอาการของโรคเหน็บชาค่ะ อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี ก็มีมากมายค่ะ

ไม่ว่าจะเป็น ถั่ว ข้าวซ้อมมือ ข้าวโอ๊ต เนื้อหมู ตับ ไข่ เป็นต้น เพื่อบำรุงและป้องกันการขาดวิตามินบี ที่เป็นสาเหตุหนึ่งที่เกิดอาการเหน็บชาได้นั่นเองค่ะ

นอกจากอาหารที่มีประโยชน์ ต่อการป้องกันอาการเหน็บชาได้แล้ว พฤติกรรมการใช้ชีวิตก็สามารถปรับให้ดีขึ้นได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น

  • การเปลี่ยนท่านั่ง เพื่อคลายเมื่อย และผ่อนคลายกล้ามเนื้อ บริเวณข้อพับ
  • กรณีที่ต้องนั่งทำงานนานๆ ก็ลองขยับแข้งขยับขาบ้าง โดยการพักเบรก เช่น ลุกเดินไปดื่มน้ำ
  • ออกกำลังกายโดยการบริหารแขนและขาเป็นประจำ
  • การนวดคลายเส้น เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
  • ระมัดระวังอิริยาบถ ที่ทำให้เกิดอาการเหน็บชา

ซึ่งวิธีที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ก็เป็นวิธีปฏิบัติตนที่จะสามารถช่วยบรรเทา อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย และป้องกันการเป็นตะคริว และภาวะเหน็บชาได้เป็นอย่างดีค่ะ

เพราะถึงแม้ว่าอาการเหน็บชานั้น อาจเป็นอาการที่เกิดกับวัยผู้สูงอายุเสียส่วนใหญ่ จนอาจทำให้เราปล่อยปะละเลยการดูแลตัวเองในส่วนนี้ไปบ้าง

แต่การที่เราจะป้องกันและดูแลตัวเอง ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะไม่เพียงแค่การป้องกัน การเป็นโรคเหน็บชาเพียงเท่านั้น

แต่รวมถึงอาการผิดปกติต่างๆ ที่ส่งผลกระทบร้ายต่อร่างกายต่างๆ อีกเช่นกันค่ะ

การดูแลตัวเองและคนรอบข้างตั้งแต่วันนี้ ถือเป็นสิ่งที่ดี ที่เราจะช่วยให้ร่างกายของเรา มีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้นะคะ