วิธีออกกำลังกายง่ายๆ สำหรับผู้สูงอายุที่ป่วยเบาหวาน

การออกกำลังกายในผู้ป่วยเบาหวาน เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลรักษาสุขภาพ เพื่อให้อาการป่วยบรรเทาลง เพียงแต่ต้องเลือก วิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพมากกว่าผลเสียนั่นเอง ซึ่งมีวิธีการออกกำลังกายอย่างไรบ้าง ที่ผู้ป่วยเบาหวานสามารถทำได้ก็ต้องไปดูกันเลย การออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน มาดูสิว่า ผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคเบาหวาน ควรออกกำลังกายด้วยวิธีไหนบ้าง 1.การเดิน การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ควรแนะนำให้ผู้สูงวัยที่เป็นโรคเบาหวานได้นำไปปฏิบัติ เพราะมีความเหมาะสมมากกว่า การออกกำลังกายแบบอื่น โดยการเดินที่จะทำให้ได้ผลดีคือ ต้องเดินเร็วเพื่อเร่งอัตราการเต้นของหัวใจให้เพิ่มขึ้น ถ้าหากผู้ป่วยเบาหวานไม่สามารถเดินเร็วได้ ก็เพิ่มเวลาการเดินให้มากขึ้น นอกจากนี้ต้องเดินในที่อากาศบริสุทธิ์ เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ และเป็นผลดีต่อระบบหมุนเวียนโลหิตอีกด้วย 2.การวิ่งจ็อกกิ้ง การวิ่งจ็อกกิ้ง เป็นอีกหนึ่งวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ไม่หนักหน่วงจนเกินไป และยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ชะลออาการป่วยเบาหวาน ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ป้องกันโรคหัวใจ และช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระดูก พร้อมลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ควรวิ่งในช่วงเวลาที่อากาศไม่ร้อนจัดอย่างเช่น ตอนเช้าตรู่ และตอนเย็นจะดีที่สุด 3.การแกว่งแขน การแกว่งแขน เป็นอีกวิธีการออกกำลังกายที่อยากแนะนำให้ผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวานทำมากที่สุด เพราะจะช่วยกระตุ้นให้ระบบน้ำเหลืองทำงานได้ดี เลือดลมไหลเวียนสะดวก และลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมภูมิต้านทานให้แข็งแรง พร้อมต่อต้านการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยเบาหวานได้อีกด้วย โดยผู้สูงอายุ ควรแกว่งแขนสลับกับการออกกำลังกายด้วยวิธีอื่นเป็นประจำ แล้วจะมีสุขภาพที่แข็งแรงมากขึ้นอย่างแน่นอน อาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน นอกจากเลือกวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมแล้ว การทานอาหารก็สำคัญเช่นกัน โดยอาหารที่ผู้ป่วยเบาหวานควรรับประทาน ควรเป็นอาหารที่มีเส้นใยสูง ให้พลังงานต่ำ เช่น ผักคะน้า […]

kaewsai

September 24, 2018

ฟิตเนส เฟิรส์ท จัดเต็มโปรโมชั่นดีๆ Hottest Deal ในงาน FitFest 2018

สายสุขภาพฟิตแอนด์เฟิร์มทั้งหลายไม่ควรพลาดงานนี้ ฟิตเนส เฟิรส์ท จัดเต็ม นำโปรโมชั่นดีๆ สุดพิเศษ Hottest Deal มาไว้ในงาน Fit Fest 2018ที่บูธ FN5-FN6 บริเวณ Foyer ระหว่างวันที่ 22 – 23 ก.ย. ที่ชั้น 5 รอยัล พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน ในงานนี้มีแคมเปญพิเศษเพียบ แถมเทรนด์ออกกำลังกายแนวใหม่ที่ไม่อยากให้พลาดบนเวทีใหญ่กับคลาส Heart Rate Training “มวยไฟท์โปร” ความพิเศษของคลาสนี้ผู้เล่นจะเห็นอัตราการเต้นของหัวใจ Heart Rate บนจอแบบเรียลไทม์ ผ่านอุปกรณ์  F Zone Belt อีกด้วย ใครที่ไม่อยากพลาดโปรโมชั่นเด็ดๆ และการออกกำลังกายแนวใหม่ๆที่กำลังมา รีบลงทะเบียนเข้างานที่  [wpsm_hidelink text=”http://www.fitfest.asia” link=”http://www.fitfest.asia”]และเข้าไปเลือกเข้าคลาสกิจกรรมของ ฟิตเนส เฟิรส์ท กันได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฟิตเนส เฟิรส์ท จัดให้ เฉพาะที่งาน Fit Fest 2018 เท่านั้น FitFest 2018 งาน ฟรี ! งานเทศกาลการออกกำลังกายที่ใหญ่ที่สุด และมันส์ที่สุด ประจำปี ครั้งแรกของเมืองไทยกับ Fitness Concert พบกับคลาสออกกำลังกายยิ่งใหญ่ของ ครูหนุ่ม ซุมบ้า กาละแมร์ เบเบ้ เทรนเนอร์จัน ครูเชอรี่ มิสฟิตเนส และคลาสจากยิมต่างๆ อีกเพียบ ลงทะเบียนเข้างานฟรี! ย้ำว่า ฟรี ฟรี […]

mahosot

September 21, 2018

ปัญหาผิวแห้งในผู้สูงอายุ กับวิธีถนอมผิวให้คงความชุ่มชื้น สุขภาพดี

การดูแลผิวพรรณในผู้สูงอายุ มีความสำคัญอย่างยิ่ง หากเมื่อไหร่ที่ผิวของผู้สูงอายุขาดการดูแล ไม่บำรุงผิวพรรณ ให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา อาการผิวแห้ง แตก แสบและคันก็จะถามหาได้ในทันที ซึ่งก็อาจจะมีปัญหาอื่นๆ ตามมาได้อีกมากมาย ดังนั้นเราจึงนำวิธีรับมือกับ ปัญหาผิวแห้งในผู้สูงวัย มาแนะนำกัน แต่ก่อนอื่นเราไปทำความเข้าใจกับสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้งกันก่อนดีกว่า สาเหตุของอาการผิวแห้งในผู้สูงอายุ สาเหตุของอาการผิวแห้งในผู้สูงอายุ อันดับแรกคือ การลดลงของฮอร์โมนตามธรรมชาติ ที่คอยกระตุ้นการสร้างไขมัน คอลลาเจน และอีสาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวค่อยๆ เสื่อมสภาพลงไปและเกิดอาการผิวแห้งในที่สุด อีกสาเหตุหนึ่งคือ การอาบน้ำบ่อยเกินไป เพราะจะเพิ่มความแห้งให้กับผิวหนังได้ รวมถึงการระคายเคืองเนื่องจากสบู่อีกด้วย อาการที่แสดงออกมาเมื่อผู้สูงวัยผิวแห้ง อาการผิวแห้งในผู้สูงวัย จะแสดงอาการในลักษณะของผิวหนังแห้ง แตกเป็นขุย เป็นเกล็ดปลาแตกระแหง ผิวบาง คัน ถ้าหากเกาอาจจะทำให้ผิวถลอก แสบ บางครั้งอาจอักเสบ มีน้ำเหลืองไหลได้ ซึ่งจะทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางผิวหนังมากยิ่งขึ้น วิธีรับมือกับอาการผิวแห้งในผู้สูงวัย สำหรับวิธีการรับมือ เมื่อผู้สูงอายุมีอาการผิวแห้ง ก็มีดังนี้ 1. ผู้ดูแล ต้องคอยหมั่นทาน้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก หรือครีมบำรุงผิวอื่นๆ ให้กับผู้สูงอายุ โดยทาแล้วนวดเบาๆ เพื่อช่วยกระตุ้นให้ครีม หรือน้ำมันซึมเข้าผิวได้ดี ซึ่งจะได้ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวหนังให้ชุ่มชื้นได้ดีขึ้น 2. คอยกระตุ้นให้ผู้สูงอายุดื่มน้ำบ่อยๆ […]

kaewsai

September 20, 2018

เครื่องดื่มลดอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง มีอะไรบ้าง?

สาวๆ หลายคนคงเคยทรมานกับ การปวดท้องอย่างรุนแรงขณะมีประจำเดือน บางครั้งปวดเกร็งเสียจนต้องล้มหมอนนอนเสื่อ หรือต้องให้น้ำเกลือกันเลยทีเดียว ทั้งนี้สาวๆ คงอยากจะหายปวดได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวดใช่ไหม? เรามีเครื่องดื่มลดอาการปวดประจำเดือนมานำเสนอ เพื่อให้คุณจัดการกับอาการปวดท้องประจำเดือนได้อย่างง่ายดาย โดยมี 5 เครื่องดื่มดังนี้ เครื่องดื่มลดอาการปวดจำเดือน มีอะไรบ้าง? 1. น้ำอุ่น เมื่อมีประจำเดือน น้ำในร่างกายจะถูกขับไปพร้อมกับประจำเดือนเป็นจำนวนมาก ทำให้ร่างกายมีความต้องการน้ำมากขึ้น ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำให้ได้มากที่สุด ถ้าสะดวกในการดื่มน้ำอุ่นได้ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก เพราะน้ำอุ่นมีส่วนสำคัญในการช่วยให้เลือดไหลเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย นอกจากนี้ ความร้อนที่พอเหมาะจากน้ำอุ่น ก็จะช่วย ให้กล้ามเนื้อมดลูกคลายตัวได้ดี จึงลดอาการปวดประจำเดือนได้นั่นเอง 2. น้ำขิง ขิงเป็นได้ทั้งอาหารและสมุนไพรที่ใช้บำบัดโรค โดยรสเผ็ดร้อนของขิงจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต บำรุงธาตุไฟ แก้ท้องอืด จุกเสียด น้ำขิงจึงเหมาะที่จะนำมาต้มดื่ม เป็นเครื่องดื่มแก้อาการปวดประจำเดือน เมารถ หรือแก้แพ้ท้องในสตรีตั้งครรภ์มากที่สุด ทั้งนี้พบว่า ในน้ำขิงมีสารบางอย่างที่จะช่วยบรรเทาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อมดลูกได้ จึงสามารถลดอาการปวดประจำเดือนได้เป็นอย่างดี 3. น้ำสับปะรด น้ำสับปะรด เป็นเครื่องดื่มอีกหนึ่งชนิดที่จะช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนได้เป็นอย่างดี เพียงดื่มเป็นประจำในช่วงที่มีประจำเดือนเท่านั้น นอกจากนี้ น้ำสับปะรดยังช่วยแก้ร้อนในและอาการกระหายน้ำได้ดีอีกด้วย ซึ่งในขณะมีประจำเดือน ร่างกายจะสูญเสียน้ำไปกับเลือดในปริมาณมาก การดื่มน้ำสับปะรดจึงเป็นวิธีที่จะช่วยชดเชยน้ำที่เสียไปได้ 4. น้ำผึ้งผสมมะนาวอุ่นๆ […]

mahosot

September 18, 2018

ปวดหลังด้านซ้าย จี๊ดๆ แปล๊บๆ เหนือเอว เกิดจากอะไร?

อาการปวดหลังด้านซ้าย ถ้าไม่ได้เกิดจากการใช้ร่างกายมาอย่างหนักและหักโหมแล้วล่ะก็ ต้องพึงระวังคอยสังเกตอาการของตัวเองให้ดี ว่ามีอาการปวดที่รุนแรงหรือไม่? นั่นก็เพราะ อาการปวดหลังด้านซ้ายจี๊ดๆ แปล๊บๆ บริเวณเหนือเอว อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งสาเหตุที่ร้ายแรงและไม่ร้ายแรง โดยยกตัวอย่างสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังข้างซ้ายดังนี้ อาการปวดหลังด้านซ้าย เกิดจากอะไรบ้าง? กล้ามเนื้อฉีกขาด กล้ามเนื้อฉีกขาด เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เจ็บหลังด้านซ้าย ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อส่วนที่คอยรองรับกระดูกสันหลัง รวมถึงกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นต่างๆ โดยถ้าหากมีแรงกดทับมากเกินไปจะทำให้บาดเจ็บและมีอาการปวดได้ โดยสาเหตุของการปวดมีได้สองแบบ คือเส้นใยกล้ามเนื้อฉีกขาดเนื่องจากการเหยียดกล้ามเนื้อหรือใช้งานหนักเกินไป กับอีกแบบคือเส้นเอ็นฉีกขาดจากการยืดข้อต่อมากเกินไป หรือฉีกขาด ซึ่งหากปวดหลังด้วยสาเหตุนี้ในเบื้องต้นให้หยุดใช้งานบริเวณที่มีอาการเจ็บปวด พร้อมกับทานยาปวด และอาจต้องทำกายภาพบำบัดร่วมด้วยในบางราย กล้ามเนื้ออักเสบและหดเกร็ง เมื่อกล้ามเนื้อยืดหรือฉีกขาด บริเวณโดยรอบจะเกิดการอักเสบหรือบวมช้ำ ซึ่งเป็นการตอบสนองตามปกติของร่างกาย โดยเลือดจะไปหล่อเลี้ยงบริเวณนั้นเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ทำให้เป็นตะคริว และหดเกร็ง เกิดอาการเจ็บปวดอย่างมาก โดยการรักษาอาการเหล่านี้ ให้ปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน กินยาแก้ปวด และอาจใช้วิธีการฝังเข็มหรือการทำกายภาพบำบัดร่วมด้วย โครงสร้างกระดูกสันหลัง หากกล้ามเนื้อไม่ใช่สาเหตุของการเจ็บปวดหลังด้านซ้าย ก็อาจจะเป็นเพราะโครงสร้างของกระดูกสันหลัง ที่ผิดแปลกไปจากปกติ จึงทำให้มีอาการปวดได้ ซึ่งแพทย์จะลองตรวจสอบโครงสร้างของกระดูกสันหลังดูว่า มีความผิดปกติจากที่ควรจำเป็นหรือไม่ สาเหตุจากอวัยวะภายใน นอกจาก อาการปวดหลังด้านซ้าย จะมีสาเหตุมาจากการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ หรือความผิดปกติของโครงกระดูกแล้ว ก็อาจเป็นเพราะสาเหตุอื่นได้อีกด้วย เช่น 1. นิ่วในไต เกิดจากแร่ธาตุในร่างกายรวมตัวกันเป็นก้อน […]

mahosot

September 17, 2018

วิธีกินโยเกิร์ตลดความอ้วน กับสูตรการกินโยเกิร์ตลดหน้าท้อง

เคยได้ยินมาว่า กินโยเกิร์ตเป็นประจำแล้วจะช่วยลดน้ำหนักได้ แต่ไม่ว่าจะกินโยเกิร์ตมากเท่าไหร่ ก็ยังไม่ผอมลงหรือหน้าท้องยุบสักที รู้ไหมว่านั่น อาจเป็นเพราะคุณกำลังกินโยเกิร์ตผิดวิธีอยู่นั่นเอง เพราะฉะนั้นมาลองเช็คกันดูสิว่าคุณ กำลังกินโยเกิร์ตลดความอ้วนแบบผิดๆ อยู่หรือไม่ วิธีกินโยเกิร์ตแบบผิดๆ จนทำให้น้ำหนักไม่ลด มีอะไรบ้าง? 1. โยเกิร์ตผสมผลไม้เชื่อม ผลไม้เชื่อมในโยเกิร์ตมีน้ำตาลสูงมาก ถ้าหากเผลอรับประทานเข้าไปมากเกิน แทนที่ร่างกายจะเผาผลาญพลังงานและดึงไขมันเก่ามาใช้ กลับกลายเป็นรับน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายและเก็บสะสมเป็นไขมันมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้รู้สึกอยากอาหารมากกว่าเดิม จึงเผลอทานอาหารระหว่างวันในปริมาณมาก ซึ่งก็ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่รู้ตัวเลยทีเดียว 2. โยเกิร์ตกรอบ เมนูที่นำโยเกิร์ตไปแช่ในช่องแช่แข็งให้เป็นเกล็ดกรอบเพื่อเพิ่มความอร่อยฟังดูก็น่ารับประทานดี แต่รู้หรือไม่ว่า เชื้อจุลลินทรีย์ในโยเกิร์ตจะหยุดการเจริญเติบโตเมื่ออยู่ในที่เย็น จึงทำให้โยเกิร์ตหมดคุณประโยชน์ไปในพริบตา แถมยังกลายมาเป็นอาหารเพิ่มความอ้วนแทนอีกด้วย เพราะฉะนั้นไม่ควรทานโยเกิร์ตกรอบแบบแช่แข็งเด็ดขาด 3. ใส่ผลไม้สด การใส่ผลไม้สดลงในโยเกิร์ตก็เป็นแนวคิดที่ดี เพียงแต่ต้องคำนึงถึงปริมาณน้ำตาลในผลไม้นั้นด้วย โดยควรเลือกผลไม้ที่มีรสหวานน้อย เช่น สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ กีวี และหลีกเลี่ยงผลไม้หวานจัด เช่น มะม่วงสุก มะพร้าว ลำไย เพียงเท่านี้ก็จะได้โยเกิร์ต ลดน้ำหนักที่ดีต่อสุขภาพจริงๆ แล้ว 4. รับประทานมากเกินไป ไม่ว่าโยเกิร์ตจะมีปริมาณแคลอรี่ต่ำเพียงใดก็ตาม แต่ถ้ารับประทานมากเกินไป ก็เท่ากับเพิ่มปริมาณแคลอรี่ให้สูงขึ้นจนไม่ต่างอะไรกับการทานอาหารแคลอรีสูงอยู่ดี เพราะฉะนั้นควรควบคุมตนเองสักนิด ควรทานโยเกิร์ตในปริมาณที่เหมาะสม และอย่าใส่น้ำตาลลงในโยเกิร์ตเด็ดขาด […]

mahosot

September 14, 2018
1 5 6 7 116