ปวดประจำเดือน

สาวๆ หลายคนคงเคยทรมานกับ การปวดท้องอย่างรุนแรงขณะมีประจำเดือน บางครั้งปวดเกร็งเสียจนต้องล้มหมอนนอนเสื่อ หรือต้องให้น้ำเกลือกันเลยทีเดียว ทั้งนี้สาวๆ คงอยากจะหายปวดได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวดใช่ไหม? เรามีเครื่องดื่มลดอาการปวดประจำเดือนมานำเสนอ เพื่อให้คุณจัดการกับอาการปวดท้องประจำเดือนได้อย่างง่ายดาย โดยมี 5 เครื่องดื่มดังนี้ เครื่องดื่มลดอาการปวดจำเดือน มีอะไรบ้าง? 1. น้ำอุ่น เมื่อมีประจำเดือน น้ำในร่างกายจะถูกขับไปพร้อมกับประจำเดือนเป็นจำนวนมาก ทำให้ร่างกายมีความต้องการน้ำมากขึ้น ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำให้ได้มากที่สุด ถ้าสะดวกในการดื่มน้ำอุ่นได้ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก เพราะน้ำอุ่นมีส่วนสำคัญในการช่วยให้เลือดไหลเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย นอกจากนี้ ความร้อนที่พอเหมาะจากน้ำอุ่น ก็จะช่วย ให้กล้ามเนื้อมดลูกคลายตัวได้ดี จึงลดอาการปวดประจำเดือนได้นั่นเอง 2. น้ำขิง ขิงเป็นได้ทั้งอาหารและสมุนไพรที่ใช้บำบัดโรค โดยรสเผ็ดร้อนของขิงจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต บำรุงธาตุไฟ แก้ท้องอืด จุกเสียด น้ำขิงจึงเหมาะที่จะนำมาต้มดื่ม เป็นเครื่องดื่มแก้อาการปวดประจำเดือน เมารถ หรือแก้แพ้ท้องในสตรีตั้งครรภ์มากที่สุด ทั้งนี้พบว่า ในน้ำขิงมีสารบางอย่างที่จะช่วยบรรเทาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อมดลูกได้ จึงสามารถลดอาการปวดประจำเดือนได้เป็นอย่างดี 3. น้ำสับปะรด น้ำสับปะรด เป็นเครื่องดื่มอีกหนึ่งชนิดที่จะช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนได้เป็นอย่างดี เพียงดื่มเป็นประจำในช่วงที่มีประจำเดือนเท่านั้น นอกจากนี้ น้ำสับปะรดยังช่วยแก้ร้อนในและอาการกระหายน้ำได้ดีอีกด้วย ซึ่งในขณะมีประจำเดือน ร่างกายจะสูญเสียน้ำไปกับเลือดในปริมาณมาก การดื่มน้ำสับปะรดจึงเป็นวิธีที่จะช่วยชดเชยน้ำที่เสียไปได้ 4. น้ำผึ้งผสมมะนาวอุ่นๆ […]

อาการปวดท้อง (abdominal pain) ไม่ว่าจะ ปวดท้องข้างขวา หรือ ปวดท้องข้างซ้าย เป็นสิ่งที่เชื่อว่า ทุกคนล้วนต้องเคยเผชิญกับอาการปวดท้องกันมาแล้ว ส่วนใหญ่มาจากสาเหตุที่ไม่เป็นอันตราย แต่ก็ยังมีอาการปวดในลักษณะอื่นที่แตกต่างกันออกไป สาวๆ จึงต้องสังเกตว่าอาการที่เกิดขึ้นมาจาก การปวดบริเวณท้องข้างซ้าย หรือมาจาก อาการปวดท้องข้างขวา กันแน่ (อ่านเพิ่มเติม : อาการปวดท้องด้านซ้าย เกิดจากอะไร รีบหาสาเหตุ วิธีการรักษาก่อนสายเกินแก้! ) แล้วอาการปวดเป็นแบบจี๊ดๆ ปวดติดต่อกันนานๆ ปวดตุบๆ หรือปวดหน่วง บริเวณที่ปวดด้านขวา จะมีอวัยวะที่ไม่เหมือนกับด้านซ้าย ดังนั้น ลองมาสังเกตกันดีกว่าค่ะว่า อาการปวดท้องข้างขวา จะเกิดขึ้นได้จากอะไรบ้าง แล้วส่วนใหญ่มีอันตรายมากน้อยแค่ไหน ? สาเหตุของอาการปวดท้องข้างขวาที่พบได้บ่อย 1.ปวดท้องด้านขวาด้านบนที่ชายโครงด้านขวา มักจะเกิดหลังจากรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง หากสาวๆ พบอาการ มักจะมีต้นตอมาจากโรคนิ่วในถุงน้ำดี และโรคตับเป็นหลัก หากต้องการสังเกตว่ามาจากโรคตับหรือไม่ ให้ลองใช้มือคลำ หากพบลักษณะเป็นก้อนแข็ง ร่วมกับ อาการตาเหลือง ตัวเหลืองด้วย ก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดโรคตับอักเสบ 2.ปวดท้องด้านขวาบริเวณใต้ซี่โครง ซึ่งมักจะร่วมกับอาการเสียดท้องและจุก สาเหตุมาจากความผิดปกติที่บริเวณลำไส้เล็ก เนื่องจากได้รับตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดภาวะลำไส้เล็กถูกขัดขวางไม่ให้ดูดซึมอาหาร ผู้ป่วยส่วนมากมาจาก “อาการแพ้โปรตีนกลูเตน” […]

ไข้ทับระดู อาจจะเป็นสภาวะยอดแย่ที่สุดของผู้หญิงอย่างเราเลยก็ว่าได้ เพราะอาการไข้ทับระดูนั้นคือ อาการไข้หรือไม่สบายในระหว่างที่มีประจำเดือน ซึ่งลำพังการเป็นประจำเดือนเฉยๆ เราก็ทรมานอย่างสุดๆ อยู่แล้ว สาวๆ หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า อาหารที่กินนั้นมีผลต่อร่างกายอย่างไร ในขณะที่เป็นไข้ทับระดูอยู่ เพราะอาหารบางอย่างเป็นตัวกระตุ้นให้อาการปวดประจำเดือน และอาการไข้เหล่านั้นสาหัสกว่าเดิม ดังนั้นเราควรจะต้องรู้ว่า อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงช่วงเป็นไข้ทับระดูนั้นมีอะไรบ้าง 6 อาหารที่ควรเลี่ยง เมื่อเป็นไข้ทับระดู 1.น้ำแข็ง และน้ำเย็น น้ำแข็ง น้ำเย็น อาหารหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ที่มีความเย็น เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อมีประจำเดือน เพราะจะทำให้เลือดในผนังมดลูกแข็งตัว ประจำเดือนหยุดไหล เกิดอาการปวดประจำเดือนมากและอาจช็อกได้ ควรดื่มน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นแทน 2. น้ำมะพร้าว การดื่มน้ำมะพร้าว  โดยเฉพาะน้ำมะพร้าวแท้ๆ จากลูกมะพร้าว  ไม่เป็นผลดีเอามากๆ ในตอนที่เรามีประจำเดือนอยู่ เพราะน้ำมะพร้าวมีสรรพคุณล้างฤทธิ์ยา ทำให้ยาแก้ปวดหรือแก้ไข้ที่เรากินเข้าไปไม่ได้ผล 3. ทุเรียน ลำไย ขนุน หรืออาหารที่มีกำมะถันเยอะๆ หากเรารับประทานอาหารและผลไม้เหล่านี้ จะเป็นการเพิ่มความร้อนในร่างกาย ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น ไข้ไม่ลด ดังนั้นเราจึงต้องหลีกเลี่ยงผลไม้เหล่านี้ซะ 4. อาหารเค็ม หรืออาหารที่มีโซเดียมมากๆ การรับประทานอาหารเค็ม หรืออาหารที่มีโซเดียมมากๆ เวลาเป็นไข้หรือร้อนใน ไตจะต้องทำงานหนักเพื่อเก็บน้ำไว้ปรับอุณหภูมิในร่างกาย […]

ช็อกโกแลตซีส โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์หรือระบบภายในของผู้หญิงเป็นสิ่งที่มีความซับซ้อน บางครั้งมีอาการรุนแรงส่งสัญญาณบอกเราตั้งแต่เนิ่นๆ แต่บางโรคก็กว่าจะรู้ผล อาการก็รุนแรง ลุกลามมากขึ้นไปแล้ว เนื้องอกชนิดหนึ่งที่มักถูกตรวจพบได้บ่อยในหญิงวัยเจริญพันธุ์ เรียกกันในชื่อว่า “ช็อกโกแลตซีส“  ที่ชื่อเหมือนจะดูไม่ค่อยอันตราย แต่หากปล่อยทิ้งไว้ มันกลับเป็นตัวการทำร้ายสุขภาพของสาวๆ ได้อย่างมากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสาวโสด สาวแต่งงานแล้ว หรือสาวแก่ ก็ล้วนมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น ดังนั้นเพื่อทำความเข้าใจ และพร้อมสำหรับการรับมือกับโรคนี้ ควรทำการศึกษาข้อมูลเรื่องของอาการที่น่าสังเกต วิธีดูแลตัวเอง และการรักษาที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยไม่ให้ช็อกโกแลตซีสกลับมาเป็นซ้ำจนต้องเข้ารับการรักษาอยู่บ่อยๆ นั่นเองค่ะ ช็อกโกแลตซีสต์ คืออะไร ? ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst) เป็นถุงน้ำที่เกิดขึ้นภายในโพรงมดลูก แปลตามตัวก็คือถุงน้ำช็อกโกแลต สำหรับทางการแพทย์จะเข้าใจกันว่าเป็นเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญเติบโตผิดตำแหน่ง (Endometriosis) ส่งผลให้เลือดประจำเดือนไหลออกมาผิดปกติ จากเติมที่ไหลออกมาจากช่องคลอด แต่เมื่อเกิดโรคนี้ขึ้น ประจำเดือนกลับไหลย้อนกลับขึ้นไปผ่านไปยังท่อรังไข่ โดยนำพาเอาเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกเข้าไปฝังตัวอยู่ที่อวัยวะภายใน จนเกิดเป็นถุงน้ำสีคล้ำเข้มเหมือนช็อกโกแลตขึ้นมา ซึ่งพบได้มากที่บริเวณอุ้งเชิงกราน ท่อรังไข่ ช่องคลอด ลำไส้ และมดลูก เป็นต้น อย่างไรก็ตามเราพบโรคนี้ได้บ่อยมากที่บริเวณรังไข่ เนื่องจากที่จุดนี้มีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง เป็นแหล่งที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโต โดยที่เยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดเข้าไปจะแทรกผ่านกล้ามเนื้อมดลูก กลายเป็นพังผืดหรือก้อนขึ้นมาอยู่ภายในกล้ามเนื้อมดลูก ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า “Adenomyosis” ตามมาด้วยอาการยอดฮิตคือปวดท้องประจำเดือนอย่างหนัก  และอาการปวดจะเป็นมากขึ้นจนต้องเข้าพบแพทย์กันเลยทีเดียว […]

อาการปวดประจำเดือน เป็นอาการสุดแสนจะทรมานอย่างมากทีเดียว สาวๆ คนไหนที่ไม่อยากทนทรมานอีกต่อไป เรามี วิธีแก้ปวดประจำเดือน มาฝาก การดูแลตัวเองตามนี้จะช่วย บรรเทาอาการปวดประจำเดือน ให้ทุเลาลงได้ จะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น สาวๆ ตามมาดูกันค่ะ วิธีแก้ปวดท้องประจำเดือน ทำได้อย่างไรบ้าง? 1.ดื่มน้ำอุ่นให้มากๆ การดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอจะช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือดได้เป็นอย่างดี แต่แนะนำว่าจะต้องดื่มน้ำอุ่นเท่านั้นนะคะ เพราะน้ำอุ่นจะช่วยลดการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดไม่จับตัวเป็นก้อนลิ่มได้ด้วย แถมยังช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้ดีเช่นกัน เพราะฉะนั้นสาวๆ อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำดีกว่า ดื่มให้มากๆ จะได้ช่วยกระตุ้นการขับเลือดเสียออกมาได้เยอะขึ้นด้วย 2.ดื่มน้ำขิง นอกจากการดื่มน้ำอุ่นแล้ว ถ้าจะให้ดี สาวๆ ควรหาน้ำขิงมาดื่มบ้างจะเวิร์กที่สุดเลยล่ะ เพราะขิงเป็นสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนลงได้ โดยมีคุณสมบัติลดการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อผนังมดลูก ทำให้กล้ามเนื้อที่บีบเกร็งตัวเกิดการผ่อนคลายลง อาการปวดท้องก็จะบรรเทาขึ้นยังไงล่ะ นอกจากนี้ น้ำขิงยังช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร แก้อาการท้องอืดจุกเสียดแน่นช่วงมีประจำเดือนได้ด้วย หรือหากไม่มีน้ำขิง สาวๆ จะหันมาจิบชาคาโมมายล์อุ่นๆ เพื่อบรรเทาปวดและเพื่อสร้างความผ่อนคลายให้แก่ร่างกายก็นับว่าได้ผลเช่นกัน 3.ประคบด้วยกระเป๋าน้ำร้อน การประคบด้วยกระเป๋าน้ำร้อนเป็น วิธีแก้ปวดประจำเดือน ที่ได้รับความนิยมอย่างมากที่สุด แค่สาวๆ นำกระเป๋าน้ำร้อนมาวางตรงท้องน้อย ความร้อนก็จะกระตุ้นให้เกิดการขยายหลอดเลือดและช่วยลดการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อมดลูก อาการปวดท้องจึงค่อยๆ บรรเทาลงไปในที่สุด 4.กินยาบรรเทาปวด หากสาวๆ มีอาการปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรง แนะนำให้กินยาแก้ปวดไปเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นยาประเภทไอบูโปรเฟน (ibuprofen) […]